"ทักษิณ" มั่นใจ นายกฯอิ๊งค์ ปลอดภัยจากรัฐประหาร 100% หากตั้งตำแหน่งให้ได้ ขอเป็น สทร. เห็นอะไรไม่ดีก็จะบอก มั่นใจเลือกตั้งครั้งหน้าชนะแน่ หลักของก้าวไกลหรือพรรคประชาชน ต้องการความเท่าเทียม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในบริบทของสังคมไทย ส่วน พท. อยู่ในบริบทของการปฏิรูปเศรษฐกิจ สร้างโอกาสให้คนไทย
หลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ของประเทศ ทำให้การปาฐกถาบนเวทีดินเนอร์ทอล์ก หัวข้อ Vision For Thailand 2024 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงค่ำวานนี้ (22 ส.ค.67) ถูกจับจ้องว่าเป็นการแถลงนโยบายรัฐบาล ที่อาจสานต่อจากสมัยรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ส่งถึงรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ไม่ว่าจะเป็นโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท การปรับโครงการสร้างหนี้ ผลักดันเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้กระทั่งการเป็นฐานการผลิตรถยนต์ EV
นอกจากนี้ ข้อความตอนหนึ่งในงานแสดงวิสัยทัศน์ นายทักษิณ ยังแสดงออกถึงความมั่นใจว่ารัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมีความมั่นคง เพราะ สส.ในฝั่งรัฐบาลมีกว่า 300 เสียง ไม่มีอะไรที่เสี่ยง การเลือกตั้งครั้งหน้ามีโอกาสสูงพรรคเพื่อไทยจะเป็นที่หนึ่ง สำหรับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา หากหัวหน้าพรรคไม่ลาคลอด แล้วเดินหน้าหาเสียงไปเรื่อย ๆ ตอนนั้นลาคลอดไป 10 กว่าวัน ทำให้คะแนนนิยมตก
ส่วนเหตุผลที่ทำให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะชนะพรรคประชาชน นายทักษิณ กล่าวว่า ของมันเคยชนะมาแล้ว หลักของพรรคก้าวไกลหรือพรรคประชาชน เขาต้องการความเท่าเทียม ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ในบริบทของสังคมไทย ดังนั้น เขาจึงจะอยู่ในบริบทของการเมือง ส่วนของพรรคเพื่อไทยอยู่ในบริบทของการปฏิรูปเศรษฐกิจ เพื่อสร้างโอกาสที่เท่าเทียมของประชาชน เราเน้นโอกาส เขาเน้นสถานะ ซึ่งตนใช้แบบนี้มาตั้งแต่ปี 2541 ตนชนะด้วยคำเดียวคือโอกาส วันนี้ไม่ใช่คนไทยงอมืองอเท้าหรือไม่ฉลาด แต่เป็นเรื่องของโอกาส
ในช่วงตอบคำถามถึงการจัดตั้งรัฐบาล คนที่อยู่ด้วยกันมีประชาธิปัตย์หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์ก็มาร่วม เห็นหรือไม่ ให้มางานนี้ด้วย ตอนมองว่าวันนี้ประเทศไทยต้องสามัคคีกัน เราแบ่งหน้าที่ แต่เราไม่ได้เป็นศัตรูกัน
เมื่อถามว่า ในฐานะพ่อคิดว่าจะสนับสนุนช่วยเหลือลูกสาวที่เป็นนายกรัฐมนตรี คนแรกที่อายุน้อยที่สุด อย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า ตนต้องทำหน้าที่ ช่วยคิด ช่วยเสนอ หากตนไปพบว่าสิ่งไหนที่ต้องปรับปรุงแก้ไข หรือแนวทางประเทศควรไปทางไหนก็จะบอกเขา แต่การตัดสินใจเป็นของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องของตน
“ผมคงจะอยู่เฉยมองปัญหาบ้านเมืองแบบไม่สนใจไม่ได้ หากจะตั้งตำแหน่งให้ตัวเอง ก็จะเป็น สทร. ได้หรือไม่ เห็นอะไรไม่ดีก็ต้องบอก เพื่อให้เขาได้แก้ไข เราก็ห่วงใย รักบ้านเมืองอยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องบอกในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี”
สำหรับคำถามถึงโอกาสที่จะเกิดรัฐประหารขึ้นอีก นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มี วงจรนั้นหายไปแล้ว เชื่อว่านายกฯ แพทองธารจะปลอดภัยจากรัฐประหาร 100 เปอร์เซ็นต์
