จับบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกนใบหน้า 4 ครั้ง/วัน

จับบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกนใบหน้า 4 ครั้ง/วัน

View icon 161
วันที่ 23 ส.ค. 2567 | 10.39 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
อาชีพรับจ้างเงินไม่พอใช้ สาวบัญชีม้าข้ามไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ผู้ว่าจ้างเลี้ยงดูอย่างดี 3 วันแรกให้กินกุ้งเผา หลังจากนั่้นต้องสมัครแอปฯ สแกนใบหน้า 4 ครั้ง/วัน ครบสัญญาจ้าง 20 วัน ได้เงินไม่ครบตามที่ตกลง กลับถึงไทยโดนจับ

สืบนครบาล ชุดจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมจับกุมตัว น.ส.เกษณี อายุ 25 ปี  บุคคลตามหมายจับ 2 หมายจับ เป็นหมายจับของศาลอาญากับศาลจังหวัดขอนแก่น โดยผู้ต้องหารายนี้มีพฤติการณ์เป็นบัญชีม้าหลอกลงทุนกดรับออเดอร์ ฐานฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ซึ่งตำรวจไปตามจับได้ภายในซอยตลาดไชย ตำบลห้วยขมิ้น อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี

ก่อนเกิดเหตุฉ้อโกง ผู้เสียหายได้ทำการติดต่อกับผู้ใช้บัญชีไลน์คนหนึ่ง แล้วชักชวนให้ผู้เสียหายทำงานออนไลน์และลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนที่สูงในเว็บไซต์ www.koganshops.com ในลักษณะการกดออเดอร์สินค้า เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินเพื่อเข้าร่วม 80,000 บาท แล้วไม่ได้รับเงินคืน

หลังถูกจับกุมผู้ต้องหาให้การ ว่ามีอาชีพรับจ้างทั่วไปในไซต์งานก่อสร้าง รายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ ต่อมามีรุ่นพี่ได้แนะนำให้ไปทำงานที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา รายได้ 40,000 บาท โดยต้องเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทยก่อน จึงได้เปิดบัญชีธนาคาร 5 บัญชี แล้วเดินทางเข้ากัมพูชาผ่านช่องทางธรรมชาติ สถานที่ทำงานเป็นอาคารสีเขียว มีความสูง 7 ชั้น

“3 วันแรก ผู้ว่าจ้างให้พักผ่อนในห้องนอน กับเพื่อนร่วมห้องคนไทย อีก 5 คน แต่ไม่สามารถออกไปไหนได้ มีอาหารให้กินอย่างดี และมีเมนูเป็นกุ้งเผา ต่อมาวันที่ 4 ผู้ว่าจ้างให้คนมาเรียกให้ไปสมัครแอปฯ ธนาคารและสแกนใบหน้า ในโทรศัพท์มือถือจำนวน 7 เครื่อง เมื่อเสร็จสิ้นจึงให้กลับไปพักผ่อนที่ห้อง โดยมีชายชาวจีนควบคุมตลอดเวลา”
.
โดยวันที่ 5 ถึงวันที่ 20 ตนถูกนำตัวไปสแกนใบหน้า วันละ 4 ครั้งต่อวัน เมื่อถึงวันที่ 20 ตนครบกำหนดกลับประเทศไทย ไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้ 4 หมื่นบาท ผู้ว่าจ้างจ่ายให้ 7,000 บาท และโดนหักค่าเดินทางกลับอีก 2,500 บาท เหลือเงินสุทธิ 4,500 บาท เมื่อข้ามกลับมาถึงฝั่งไทย มีชายรูปร่างผ่อมสูงผิวสีดำชาวกำพูชาจะมารับไปส่งขึ้นรถตู้ และบอกว่าเมื่อไปถึง กทม.ให้ไปอายัดบัญชีที่เคยเปิด เพื่อป้องกันตำรวจติดตามและดำเนินคดี

เมื่อตนเดินทางถึง กทม. ได้กลับไปหางานก่อสร้างที่ บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ต่อมาได้รับข่าวว่ารุ่นพี่ที่เคยชักชวนไปทำงานที่ปอยเปต ถูกจับในข้อหาเปิดบัญชีม้า 2 คดี ต่อมาตำรวจโทรเข้ามาหาแจ้งว่ามีคดีเปิดบัญชีม้า จึงตัดสินใจย้ายไปทำงานที่ จ.สระบุรี เพราะกลัวตำรวจจะติดตามมาพบตัว แต่ก็ถูกจับได้ในที่สุด

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอเตือนเป็นอุทาหรณ์ ให้ระวังถูกหลอกเข้าไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา บางคนถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ต้องโทษจำคุกถึง 50 ปี และต้องชดใช้เงินทั้งหมดคืนแก่ผู้เสียหาย มีบางคนถูกกักขัง ถูกทำร้าย และหากทำงานไม่ได้หรือไม่ยอมทำงานจะถูกขายต่อให้นายทุนรายอื่น จึงขอประชาสัมพันธ์ให้คนไทยที่กำลังคิดจะเข้ามาทำงานผิดกฎหมายในกัมพูชา ศึกษาหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ