สาวเด็กเอ็นฯ ร้องสายไหมต้องรอด หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกลูกค้าเมาทำร้ายจนเหน้าตา ลำตัวเขียวช้ำ ท้าให้แจ้งความ อ้างบ้านรวย รู้จักคนใหญ่คนโต

สาวเด็กเอ็นฯ ร้องสายไหมต้องรอด หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกลูกค้าเมาทำร้ายจนเหน้าตา ลำตัวเขียวช้ำ ท้าให้แจ้งความ อ้างบ้านรวย รู้จักคนใหญ่คนโต

View icon 157
วันที่ 25 ส.ค. 2567 | 17.10 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (25 ส.ค. 67) ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 สาวผู้เสียหายซึ่งประกอบอาชีพเป็นสาวเอนเตอร์เทน เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกลูกค้าทำร้ายร่างกายน่วมไปทั้งตัว

น.ส.ตาล (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา ตนได้ไปรับงานเอนเตอร์เทนที่ โรงแรมแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 โดยมีการโทรมาชวนให้ไปช่วยรับงานเอนเตอร์เทนของ น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเด็กเอนเตอร์เทนอีกคนหนึ่งที่กำลังเอนเตอร์เทนลูกค้าอยู่ ด้วยราคาค่าตัว 4 ชั่วโมง อยู่ที่ 1,500 บาท โดยเป็นงานชงเหล้าและดื่มกับลูกค้า มีลูกค้าเป็นผู้ชาย 2 คน

เมื่อตนไปถึงโรงแรมช่วงเวลาประมาณตี 4 ลูกค้าได้เปิดห้องเอาไว้ 2 ห้อง ภายในห้องมีลูกค้า 2 คน และน.ส.แก้ว กำลังเอนเตอร์เทนผู้ก่อเหตุที่ทำร้ายร่างกายตน ส่วนตนรับน่าทีชงเหล้าให้กับลูกค้าอีกคนหนึ่ง จากนั้นนั่งดื่มกันไปสักพักถึงช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. น.ส.แก้ว ได้ถามลูกค้าว่าจะต่อเวลาของเขาอีกไหม เพราะรอบของเขาจะครบ 4 ชั่วโมง ในเวลา 06.30 น. จะได้อยู่เป็นเพื่อนตนเอง เนื่องจากรอบของตนเวลา 08.00 น. แต่ลูกค้าไม่ขอต่อเวลา และไล่ให้ น.ส.แก้ว กลับไปได้เลย

น.ส.ตาล บอกอีกว่า พอได้ยินแบบนั้น ตนรู้สึกไม่สบายใจที่จะต้องอยู่คนเดียว เลยขอลูกค้าว่าหนูจะขอกลับด้วยเลยได้ไหม เพราะที่คุยงานกันไว้ คือ ไม่รับงานเอ็นฯแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ตอนนั้นอาการผู้ก่อเหตุเริ่มดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ พอถึงช่วงเวลา 06.30 น. ได้หมดเวลาของ น.ส.แก้ว เขาจึงขอรับค่าตัว โดยผู้ก่อเหตุได้โอนเงินค่าตัวให้จำนวน 1,500 ก่อนยืนคุยกับ น.ส.แก้ว จากนั้นสักพักเริ่มด่า น.ส.แก้ว และทะเลาะกัน ผู้ก่อเหตุได้ขอเงินค่าตัวคืน โดยพูดว่า “กูไม่อยากให้เงินมึงแล้ว เงินกูเอาคืนมา” พอโต้เถียงกันสักพัก น.ส.แก้ว ไม่อยากมีปัญหามากกว่านี้ จึงยอมคืนเงินไป ก่อนจะเดินออกจากห้องไปที่รถ โดยผู้เหตุก็ยังคงตามไปด่าถึงที่รถ

จากนั้นผู้ก่อเหตุเดินกลับมาหาตน แล้วพูดว่า “มึงมานี่สิ มึงจะอยู่ต่อคนเดียวได้ไหม” ตนดูเวลาตอนนี้ก็ใกล้จะ 7 โมงเช้าแล้ว อีก 1 ชั่วโมง ก็จะครบเวลา จึงตอบกลับไปว่าอยู่ได้ เพราะไม่อยากมีปัญหาไปมากกว่านี้ ผู้ก่อเหตุจึงพาตนเดินไปหา น.ส.แก้ว ที่รถ เพื่อให้ไปบอกว่าอยู่ต่อคนเดียวได้ ก่อนกลับตนได้ยกมือไหว้ขอโทษน.ส.แก้ว ที่ต้องมามีปัญหากับลูกค้าเพราะตน และหันไปไหว้ขอโทษผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุกับพูดกลับมาว่า “มึงไปไหว้พ่อมึงเถอะ ไม่ต้องมาไหว้กู กูไม่ใช่พ่อมึง” ตนจึงบอกว่าพี่ทำไมมาพูดถึงพ่อถึงแม่คนอื่นแบบนี้ แต่ผู้ก่อเหตุไม่สนใจและพูดกับตนว่า “มึงกลับเข้าไปในห้อง” โดย น.ส.แก้ว ยอมขับรถกลับไปโดยที่ไม่ได้ค่าตัว

ต่อมา หลังกลับเข้ามาในห้อง ตนก็ได้ไปนั่งชงเหล้าให้กับลูกค้าของตัวเองต่อ สักพักผู้ก่อเหตุก็ได้เดินมานั่งข้าง ๆแล้วก็ด่าตน ก่อนยื่นแก้วให้ชงเหล้า และพูดว่า “มึงชงเหล้าให้กูสิ ชงดีดีอย่าให้บาดคอกู” ตนจึงตอบกลับไปว่าทำไมพี่พูดจาไม่ดีเลย หนูยังไม่ได้พูดอะไรไม่ดีกับพี่เลยนะ ตั้งแต่ข้างนอกแล้ว ถ้ามีคนพูดกับพี่แบบนี้ พูดถึงพ่อพี่แบบนี้ พี่จะรู้สึกอย่างไร ซึ่งผู้ก่อเหตุตอบกลับมาว่า “ถ้ากูต่อยผู้หญิงกูผิดไหม” ก่อนจะชกเข้าที่เบ้าตาซ้าย ทำให้ตนร่วงลงไปอยู่กับพื้น แต่ไม่พอยังมีการเตะและกระทืบซ้ำเข้าที่บริเวณแขนและใบหน้าอยู่หลายครั้ง และเหมือนว่าแก้วเหล้าจะหกไปโดนรองเท้าผู้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุจึงได้ถอดรองเท้าออก แล้วสั่งให้ตนเอารองเท้าเข้าไปซักในห้องน้ำ

ขณะเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ ตนได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกวิดีโอและใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ เท่านั้นยังไม่พอผู้ก่อเหตุเรียกตนออกมาแล้วให้ก้มใส่รองเท้าให้ ก่อนจะเตะเข้าไปที่กกหู แล้วทำการกระทืบซ้ำ ทำร้ายตบต่อยอยู่กว่า 5 นาที ส่วนเพื่อนผู้ก่อเหตุได้เข้าช่วยห้ามปราม แต่ผู้ก่อเหตุสั่งให้ไปปิดประตูเอาไว้กันเสียงออก ตนได้แต่ร้องขอยกมือไหว้อย่าทำร้ายตนอีกเลย แต่ผู้ก่อเหตุไม่ฟัง ทำร้ายร่างกายจนพอใจ จึงจะปล่อยให้กลับแล้วก็ยังมีท้าให้ไปแจ้งความกับตำรวจได้เลย เพราะบ้านรวย รู้จักคนเยอะไม่กลัวอะไรทั้งนั้น

ต่อมาเวลา 12.00 น. ของวันเดียวกัน ตนพร้อมคุณแม่ได้เดินทางไปแจ้งความกับทางตำรวจ ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร ในข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยวันเดียวกันทางพนักงานสอบสวนได้ตามตัว นายมิกซ์ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุให้มาเข้าพบ เพื่อพูดคุยกัน ขณะที่นายมิกซ์ทำเพียงแค่ขอโทษ และอ้างว่าตัวเองเมา ไม่ได้ตั้งใจ ก่อนช่วยเพียงค่ารักษาพยาบาลมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตนกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม วันนี้จึงเดินทางมาร้องทุกข์กับเพจสายไหมต้องรอด เพื่อให้ช่วยติดตามคดี และดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ให้ผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบในส่วนของค่าเสียทั้งหมด เพราะก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุอ้างว่ารู้จักผู้ใหญ่มากมาย จึงเกรงว่าเรื่องจะเงียบ และไม่ได้รับความเป็นธรรม

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า เรื่องนี้จะประสานไปยัง ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ให้ช่วยเร่งตามคดีให้เร็วที่สุด ให้ดำเนินการกับผู้ก่อเหตุขั้นเด็ดขาด เพราะการที่มาทำกับผู้หญิงแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ไม่สมควรอย่างมาก และจะให้ผู้ก่อเหตุต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย ไม่ว่าจะค่ารักษาแผล หรือการที่น้องต้องขาดรายได้ ดูจากสภาพรอยแผลแล้วคงจะเป็นเดือน เพราะงานของน้องต้องใช้หน้าตาความสวยเพื่อทำงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง