สนามข่าว 7 สี - ความรวยอู้ฟู่ของ "เสี่ยเค้ก" เจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยวชื่อดังที่จังหวัดนนทบุรี ส่อแววงานเข้าว่าอาจถูกเจ้าหน้าที่สรรพากร ตรวจสอบร่ำรวยมาจากไหน
กรณีนี้นำเสนอไปเมื่อวาน นายรังสรรค์ สุวรรณศร หรือ เสี่ยเค้ก เจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยวชื่อดังที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พกเงินสดเป็นปึก ๆ ไปซื้อทองคำ และประกาศว่ากำลังเตรียมเงินไปซื้อทองคำรูปพรรณหนัก 100 บาท มาใส่เพิ่มอีก จากฐานะที่ดูร่ำรวยอู้ฟู่ ทำให้ปรากฏกระแสข่าวว่าเสี่ยเค้ก อาจถูกสรรพกรตรวจสอบเส้นทางการเงิน
เรื่องนี้ เสี่ยเค้ก ยืนยันว่า เงินทุกบาทที่หามาได้จากน้ำพักนำ้แรงด้วยความสุจริต โดยย้อนเล่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีทองคำใส่ที่คอ และข้อมืือเส้นใหญ่อย่างวันนี้ เริ่มต้นจากการขายที่ดินของทางครอบครัวเมื่อ 20 ปีก่อน ได้เงินมา 80,000 บาท นำไปซื้อทองเก็บไว้ และเปิดร้านขายบะหมี่เกี๊ยว พอขายได้กำไรนำไปซื้อทองเพิ่ม สะสมมาเรื่อย ๆ จนมีทองคำเส้นละ 10 บาท จำนวน 2 เส้น และที่ข้อมือ เส้นละ 5 บาท รวมน้ำหนัก 25 บาท ถ้าคิดเป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาท
เจ้าตัว บอกว่า กว่าจะเก็บหอมรอมริบซื้อทองน้ำหนัก 25 บาท ไม่ง่ายที่ผ่านมาตนเองต้องประหยัดมัธยัสถ์ เล่นแชร์ออมเงิน แม้แต่กาแฟร้านหรู ก็ไม่เคยเข้าไปนั่งดื่ม
เมื่อวานหลังตกเป็นประเด็นเปิดร้านร้านบะหมี่เกี๊ยว จนมีเงินซื้อทอง หนัก 25 บาท เสี่ยเค้ก ได้เข้าไปปรึกษา นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ซึ่งทนายรณรงค์ แนะนำว่า ไม่ต้องกังวลอะไรเพราะกำไรจากการขายบะหมี่เกี๊ยว ต่อวันอยู่ที่ประมาณวันละ 2,000 กว่าบาท หรือบางวันก็ขาดทุนด้วยซ้ำ หากคำนวณจากรายได้แล้วน่าจะไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ต่อปี