มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากฯ จัดทีมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

View icon 104
วันที่ 27 ส.ค. 2567 | 11.16 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จัดทีมเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดสุโขทัย และตั้งโรงครัวพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่จังหวัดน่าน

มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากฯ จัดทีมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ทางมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จัดทีมเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) อาสาปฏิบัติการภัยพิบัติ และทีมเครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เกาะขันธ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากพนังกันน้ำแตก ที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย โดยได้อพยพผู้ป่วย และประชาชน ที่ติดอยู่ภายในบ้าน ที่ตำบลท่าทอง 4 หมู่บ้าน และตำบลคลองกระจง 4 หมู่บ้าน จากนั้นจะได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือดูแลความเป็นอยู่ รวมถึงได้ติดตามโทรมาตร เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ เพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที

จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน 
วานนี้ เป็นวันแรก ที่จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ปรุงอาหารสด 8,000 ชุด แจกจ่ายให้ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดน่าน 4 แห่ง คือ ที่ อบต.ไหล่น่าน อำเภอเวียงสา วัดน้ำครกใหม่ ตำบลกองควาย อำเภอเมืองน่าน และบ้านหนองเต่า อำเภอภูเพียง จัดทำอาหารมื้อกลางวัน แห่งละ 2,000 ชุด

ส่วนที่ อบต.ตาลชุม อำเภอเวียงสา จัดทำอาหารมื้อกลางวันและมื้อเย็น จำนวน 2,000 ชุด โดยเมนูที่จัดทำ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวคลุก ข้าวเหนียวหมูทอด ผัดพริกแกง ข้าวผัด

สำหรับสถานการณ์น้ำ ในจังหวัดน่านยังต้องเฝ้าระวัง มีน้ำท่วมขังสูงในหลายพื้นที่ และประชาชนยังต้องการความช่วยเหลือ

มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ขอเชิญ "ร่วมแบ่งปัน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย" ร่วมบริจาคได้ที่ เลขที่บัญชี 020-3-04545-1 ธนาคารไทยพาณิชย์ กระแสรายวัน หรือสแกน QR Code E-Donation บริจาคผ่านระบบ Mobile Banking ได้ทุกธนาคาร

ใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 0-2054-6546 Line Official : @friendsofpa

ครม.เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
คณะรัฐมนตรี นำข้อมูลที่รัฐมนตรีลงพื้นที่น้ำท่วมทางภาคเหนือ เข้ามาพิจารณาเพื่อบริหารจัดการน้ำและดูว่าจะต้องทำขั้นตอนใดต่อไป

ส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ได้ช่วยเหลือในเฉพาะหน้าไปแล้วในเบื้องต้น และประสานผู้ว่าราชการจังหวัด 4 จังหวัดทางภาคเหนือให้เป็นหลักในการช่วยเหลือ แต่อย่างไรก็ตามยังมีงบฯ กลางที่จะดำเนินการ

และในวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำที่ขณะนี้มวลน้ำทยอยลงมายังจังหวัดสุโขทัย หลังจากมีการระบายน้ำจากจังหวัดแพร่ โดยตั้งใจเยียวยาให้กับผู้ประสบอุทกภัยเต็มที่

กทม.สำรวจแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา รับมือได้
สำหรับพื้นที่ปลายน้ำอย่างกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำทีมลงเรือสำรวจสถานการณ์น้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าน้ำเหนือไม่น่าห่วงเท่าน้ำฝนใน กทม. โดยระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ยังอยู่ในแนวคันกั้นน้ำที่รับมือได้ ซึ่งยังห่างตลิ่งหลายเมตร

เบื้องต้นเพื่อเป็นการเตรียมพร้อม กทม.เตรียมกระสอบทรายไว้ 1.5 ล้านลูก วางไปแล้ว 250,000 ลูก ตามจุดฟันหลอที่ยังไม่สามารถสร้างแนวคันกั้นน้ำ

เหนือ-ใต้อันดามัน รับฝนหนัก 80 % ของพื้นที่ 
วันนี้ (27 ส.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน ฉบับที่ 4 เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ถึงวันที่ 28 สิงหาคมนี้

ภาคเหนือ เจอฝนได้ทุกจังหวัด หนักสุด 80 % ของพื้นที่

ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ฝนตก 70 % ของพื้นที่ เจอฝนได้เกือบทุกจังหวัด

ภาคกลาง ฝนตก 70 % ของพื้นที่

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เจอฝน 60 % ของพื้นที่ แต่ที่ต้องระวัง คือ ฝั่งอันดามัน ฝนตกได้ถึง 80 % ของพื้นที่บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

เตือน 6 จังหวัด ระวังน้ำหนุนสูง
นอกจากนี้กรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ หรือ สสน. วิเคราะห์สถานการณ์ฝนตก ในเดือนสิงหาคมนี้ จะมีฝนตกซ้ำ ๆ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน

รวมถึง มีฝนตกชุกบริเวณชายขอบของประเทศภาคตะวันออก แถว ๆ จันทบุรี ตราด และภาคใต้ฝั่งอันดามัน จากปัจจัยร่องมรสุมที่กำลังจะเลื่อนลงมาจากตอนบนของประเทศ

ขณะที่ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. สั่งเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ช่วงวันที่ 30 สิงหาคม ถึง 5 กันยายนนี้ อาจส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำบางปะกง โดยเฉพาะชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ และแนวเขื่อนชั่วคราว

สำหรับพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำ หรือ แนวฟันหลอ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี และสมุทรปราการ คาดว่าระดับน้ำบริเวณจุดวัด ที่ป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ จังหวัดสมุทรปราการ จะมีความสูงประมาณ 1.70 - 2.00 เมตร ส่งผลกระทบพื้นที่ริมน้ำ

สทนช.ย้ำเฝ้าระวังฝน-น้ำท่วมยาวถึง ต.ค. 67 
ซึ่งนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช.ย้ำยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนัก และน้ำท่วมยาวไปจนถึงเดือนตุลาคมนี้ โดยหลายหน่วยงานเร่งลดระดับน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสีย และเร่งฟื้นฟูซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน โรงพยาบาล โรงเรียน เส้นทางสัญจร สาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง