“ลูกพะยูน” พลัดหลง กลับดาวพะยูนแล้ว หลังวันนี้มีอาการไม่ดี ชักเกร็ง หายใจช้าลงผิดปกติ การเต้นของหัวใจเบาลง และการตอบสนองช้าลง คาดป่วยตามธรรมชาติเนื่องจากภาวะทางเดินหายใจล้มเหลว
วันนี้ (28 ส.ค. 67) เวลา 06.18 น. “ลูกพะยูน” พลัดหลง แสดงอาการชักเกร็ง สีเยื่อเมือกซีด หายใจช้าลงผิดปกติ การเต้นของหัวใจเบาลงและการตอบสนองช้าลง จนหยุดนิ่งและตายในที่สุด จากการชันสูตรซากลูกพะยูนพบว่าเนื้อเยื่อปอดมีเลือดคั่งและพบลิ่มเลือดอุดตันภายในหลอดลมและแขนงหลอดลมปริมาณมาก บริเวณผนังช่องท้องพบลิ่มเลือดกระจายเป็นหย่อม ๆ ส่วนของทางเดินอาหารพบปื้นเลือดออกบริเวณกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นเล็กน้อย
โดยสรุปสาเหตุการตายคาดว่า ป่วยตามธรรมชาติเนื่องจากภาวะทางเดินหายใจล้มเหลว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) ได้ทำการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ทางจุลพยาธิวิทยา ตรวจเพาะเชื้อแบคทีเรียและไวรัสเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุการตายอย่างละเอียดต่อไป
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 21.30 น. วานนี้ “ลูกพะยูน” แสดงอาการซึม ลอยตัวนิ่ง หายใจถี่ขึ้น มีอาการหายใจลำบาก และจมตัวลงพื้นบ่อโดยไม่สามารถทรงตัวได้ ทางทีมสัตวแพทย์จึงรีบพยุงตัวขึ้นเหนือน้ำ และติดตามสัญญาณชีพอย่างใกล้ชิด อัตราการหายใจเฉลี่ย 15-20 ครั้งต่อ 5 นาที การหายใจถี่และสั้น จึงให้ออกซิเจนและยากระตุ้นการหายใจ วัดหัวใจเต้นเบาลง และตรวจการเคลื่อนไหวของลำไส้พบว่ามีการเคลื่อนไหวช้าลง ตรวจวัดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดพบว่า 21 mg/dl บ่งบอกว่าลูกพะยูนพบน้ำตาลในกระแสเลือดต่ำกว่าปกติอย่างรุนแรง ทางสัตวแพทย์จึงให้สารน้ำเข้าทางหลอดเลือดและทางการป้อน ให้ยาลดปวดเพื่อพยุงอาการ
ทั้งนี้ “ลูกพะยูน” พลัดหลงมาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2567 บริเวณเกาะปอดะ จ.กระบี่ และขนย้ายมารักษาและอนุบาลที่สถาบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง