สมยศ ยอมรับ กังวลใจ อัยการปราบทุจริตฯ นัดส่งฟ้องช่วยเหลือคดี “บอส”

สมยศ ยอมรับ กังวลใจ อัยการปราบทุจริตฯ นัดส่งฟ้องช่วยเหลือคดี “บอส”

View icon 193
วันที่ 29 ส.ค. 2567 | 12.30 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
อัยการปราบทุจริตฯ ยื่นฟ้อง “สมยศ” พร้อมพวก 8 คน ช่วยเหลือกลับคำสั่งคดี “บอส” ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เจ้าตัว รับกังวลใจ แต่ต้องพิสูจน์

วันนี้ (29 ส.ค.67) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง นายสุเวช จอมพงค์ อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 นำสำนวนที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กับพวกรวม 8 คน มายื่นฟ้องต่อศาล กรณีเปลี่ยนเเปลงความเร็วจนเป็นเหตุกลับคำสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ หรือบอส ซึ่งขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2555

วันนี้จำเลยทยอยเดินทางมาศาลพร้อมทนายความ โดย พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า วันนี้ตัวเองได้มอบหมายให้ทนายความดำเนินการตามขั้นตอน

เมื่อถามว่า มั่นใจในพยานหลักฐาน ที่นำมาก่อนหน้านี้หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า พยายามทำดีที่สุดแล้ว ยอมรับว่ากังวล และไม่สบายใจ ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่มีเรื่องต้องต่อสู้ในชั้นศาล แต่ทุกอย่างก็ต้องพิสูจน์ และเรื่องทั้งหมดกำลังจะเข้าสู่กระบวนการชั้นศาล ตนเองไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์หรือคอมเมนต์ใด ๆ เนื่องจากเป็นการก้าวก่ายและเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ส่วนหลักฐานที่ต่อสู้กันมาในชั้นสอบสวนตนเองไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด

ด้าน นายสุเวช กล่าวว่า วันนี้นำสำนวนที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ กับพวกรวม 8 คนมายื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริต โดยผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหาที่แตกต่างกัน โดยแยกเป็นประเด็น ส่วนแรกคือการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ อีกส่วนหนึ่งคือการดำเนินคดีกับอดีตรองอัยการสูงสุดเรื่องการสั่งคดี และผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเป็นพยานของคดีนี้ ซึ่งคดีดังกล่าว ป.ป.ช. มีมติส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด หากอัยการสูงสุดเห็นด้วยและมีคำสั่งฟ้องอัยการสูงสุดก็จะเป็นโจทก์ฟ้องเอง โดยข้อหาหนักที่ฟ้องคือความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ทั้งนี้ วันนี้ไม่ได้มีการคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เพราะทุกคนก็มีที่อยู่เป็นหลักเเหล่ง ขอให้เป็นดุลพินิจของศาล

สำหรับกระบวนการในวันนี้อัยการจะตรวจสำนวนทั้งหมดว่าจำเลยมาครบทั้งหมดหรือไม่ ถ้ามาครบทุกคนอัยการก็จะยื่นฟ้องทันที ซึ่งทราบว่าจำเลยน่าจะมาตามนัดครบทุกคน แต่หากมาไม่ครบก็ต้องแยกสำนวนในการฟ้องภายหลัง เมื่อฟ้องแล้วศาลจะนัดสอบคำให้การผู้ต้องหา หลังจากนั้นจะนัดตรวจพยานหลักฐาน และนัดวันสืบพยาน ซึ่งวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการฟ้อง หลังจากนี้จะต้องมีการไต่สวนพยานของแต่ละฝ่าย ในขั้นตอนนี้ศาลสามารถเรียกสอบพยานและหลักฐานมาไต่สวนเพิ่มเติมได้ เนื่องจากศาลอาญาคดีทุจริตฯ เป็นระบบไต่สวน

คดีนี้เป็นคดีแรกที่ตนเข้ามารับผิดชอบ แต่จะเป็นการฟ้องอดีต ผบ.ตร.คนแรกในรอบหลายสิบปีหรือไม่ ตนไม่ทราบ และหากกระบวนการในชั้นศาลสิ้นสุดและมีผลเป็นลบต่อจำเลย เกรงจะมีจำเลยหลบหนี การติดตามตัวก็จะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับอัยการ ส่วนที่ ป.ป.ช.ยื่นสำนวนมาเเละมีการทำข้อไม่สมบูรณ์เป็นกระบวนการ ทางอัยการสำนักงานปราบปรามการทุจริตฯ มองว่ามีข้อไม่สมบูรณ์ก็ส่งให้อัยการสูงสุด ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจเป็นผู้พิจารณา เเม้อัยการปราบปรามการทุจริตฯ จะทำข้อไม่สมบูรณ์ไปก็เป็นอำนาจของอัยการสูงสุด โดยคำฟ้องในวันนี้มี 19 หน้า