พ่อแม่พาลูกชายแจ้งความเอาผิดครู หลังใช้ไม้พลองฟาดหลัง เด็กชายวัย 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.6. จนไม้หัก ทำให้ปวดหลังจนนอนไม่ได้
เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 29 สิงหาคม 2567 น.ส.รักษ์สุดา อายุ 27 ปี และ นายภิญโญ อายุ 34 ปี พ่อและแม่พาลูกชาย อายุ 11 ปี ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.6 ที่ โรงเรียนวัดแห่งหนึ่ง ในตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.สุระ เลิศไธสง สารวัตร (สอบสวน) สภ.คูคต เพื่อเอาผิดครูผู้ชายคนหนึ่งที่โรงเรียนของลูก ได้ก่อเหตุใช้ไม้พลองฟาดหลังลูกจนไม้หัก ทำให้ได้รับบาดเจ็บ จึงมีความประสงค์แจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับครูคนดังกล่าว
เด็กชายผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันเดียวกัน ขณะที่ตนนั่งเล่นกับเพื่อนรวม 6 คน ตอนชั่วไมงเรียนลูกเสือ แล้วครูเดินมาเจอ ครูก็เลยใช้ไม้พลองฟาดที่หลัง 1 ครั้งอ ย่างแรงจนไม้หัก และเคาะหัวอีก 1 ครั้ง แต่ตีตนคนเดียว ส่วนเพื่อนไม่โดน ซึ่งรอยช้ำแดงที่หลังตอนนี้ไม่เห็นแล้ว ตอนแรกที่เพื่อนดูเห็นขึ้นเป็นแนวรอยแดง ตนปวดหลังมาก
นายภิญโญ ผู้เป็นพ่อ บอกว่า ตอนที่ลูกลับมาจากโรงเรียน ลูกมาบ่นว่าถูกครูตี ตนก็คิดว่าครูตีปกติเพราะลูกอาจดื้อ ตนก็ไม่คิดอะไรมัวแต่เร่งงานลูกค้ากลัวไม่ทัน แต่พอเสร็จงานพบว่าลูกกินข้าวและเข้านอนแล้ว ตนจึงไปคุยกับลูก ลูกจึงเล่าว่าโดนครูใช้ไม้พองตี ทำให้ลูกชายได้รับบาดเจ็บปวดหลัง จะนอนก็นอนไม่ได้ ถึงลูกตนดื้อ แต่ถามว่ามันเกินไปไหม ครูใช้ไม้พลองฟาดหลังจนไม้หัก ใช้ไม้ใหญ่ตีขนาดนี้ ลูกก็เคยโดนตีแต่ไม่ถึงขนาดนี้ก็ไม่ติดใจแต่ครั้งนี้ไม้ใหญ่กว่านิ้วโป้งมือ ตีจนไม้หักกับเด็กตัวแค่นี้มันก็เกินไป
กฎหมายก็บอกแล้วว่าครูห้ามตีเด็ก แต่มาทำอย่างนี้ลาออกจากครูไปเถอะ ครูประจำห้องพยาบาลที่เขาทายาให้ลูก บอกว่าแกอีกแล้วเหรอ ก็แสดงว่าไม่ใช่ลูกผมคนเดียวที่โดน ก่อนหน้านี้คงจะมีเด็กคนอื่นที่โดน แต่ไม่รู้เด็กคนอื่นเขายังไง แต่ลูกผมคือผมไม่ยอมคือผมเลี้ยงลูกผมก็ตี แต่ไม่เคยใช้ไม้ใหญ่ขนาดนี้ตี จึงมาลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนว่าถูกครูทำร้ายร่างกาย