บุญเดือน 9 ชาวบ้านนำห่อข้าวน้อยร่วมประเพณีบุญข้าวประดับดิน ตามความเชื่อที่ว่าในคืนวันแรม 14 ค่ำ เดือน 9 เป็นวันที่ประตูนรกเปิด ญาติพี่น้องผู้ล่วงลับได้กลับมารับส่วนกุศลที่ลูกหลานอุทิศไปให้
ประเพณีบุญข้าวประดับดิน วันนี้ (2 ก.ย.67) เมื่อเวลา 03 .00 น. ที่วัดหนองสังข์ไลอุทิศ หมู่ที่ 3 ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านร่วมกันทำบุญประเพณี "บุญข้าวประดับดิน" ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาในหลายพื้นที่และหลายจังหวัด เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
ประเพณีบุญข้าวประดับดิน หรือ การทำบุญเดือน 9 ก่อนจะนำเอาอาหารคาวหวานไปทำเป็นห่อ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ห่อข้าวน้อย จากนั้นพอผ่านเวลาหลังเที่ยงคืน เข้าสู่วันใหม่ ซึ่งเป็นคืนวันแรม 14 ค่ำ เดือน 9 ก็จะพากันนำห่อข้าวน้อยที่จัดเตรียมไว้นำออกไปวางบริเวณรอบกำแพงวัด รอบฐานเจดีย์ หรือรอบโบสถ์ ตลอดจนใต้โคนต้นไม้ใหญ่ และเรียกพ่อแม่หรือญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว รวมทั้งเปรตหรือผีไม่มีญาติ ให้มารับเอาส่วนกุศลที่อุทิศไปให้ โดยเชื่อว่าในคืนวันแรม 14 ค่ำ เดือน 9 เป็นวันที่ประตูนรกเปิดจึงมีญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วได้กลับมารับเอาส่วนกุศลที่ลูกหลานอุทิศไปให้
ประเพณีบุญข้าวประดับดินยังถือเป็นวันสำคัญ ที่ชาวบ้านจะทำทานให้แก่ผู้ยากไร้ รวมถึงช่วยเหลือสัตว์น้อยใหญ่อีกด้วยประเพณีบุญข้าวประดับดิน มีความเชื่อมโยงกับเรื่องราวสมัยพุทธกาล มาจากนิทานธรรมบทที่เล่ากันว่า "พระญาติของพระเจ้าพิมพิสาร" ได้ขโมยเงินวัดในสมัยที่ยังมีชีวิต เมื่อตายไปก็เกิดเป็นเปรตในนรก ต่อมาพระเจ้าพิมพิสารทรงถวายทานแด่พระพุทธเจ้า ทว่าลืมอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ พอตกกลางคืนก็ทรงได้ยินเสียงผีเปรต ที่เป็นพระญาติที่เสียชีวิตไปแล้วมาส่งเสียงร้องโหยหวนใกล้พระราชวัง จึงทรงกลับไปทูลถามพระพุทธเจ้าและอุทิศส่วนกุศลใหม่ จึงกลายเป็นที่มาของความเชื่อประเพณีบุญข้าวประดับดิน