ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต สั่งยุติการก่อสร้าง และหยุดกิจกรรมสงฆ์ทุกกรณี บนยอดเขานาคเกิด เปิดทางสอบข้อเท็จจริง เหตุดินถล่มจนมีผู้เสียชีวิต 13 คน
กรณีเหตุดินจากเขานาคเกิด ถล่มทับบ้านเรือนประชาชนพื้นที่ปฏัก ซอย 2 ตำบลกะรน จังหวัดภูเก็ต ได้รับความเสียหาย 50 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิต 13 ศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ซึ่งหลังเกิดเหตุ สังคมพุ่งเป้าไปยังที่ตั้งองค์พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือพระใหญ่ ว่าเป็นต้นตอเหตุดังกล่าวหรือไม่ เนื่องจากจุดเริ่มต้นของดินสไลด์ลงมา อยู่ห่างจากจุดที่ทางพระใหญ่ก่อสร้างลานจอดรถไม่ถึง 5 เมตร
ขณะที่ ป่าไม้จังหวัด มีการตรวจสอบ พบมีการรุกล้ำพื้นที่ป่า 5 ไร่เศษ จึงแจ้งความข้อหาบุกรุกป่ากับประธานมูลนิธิพระพุทธะมิ่งมงคลศรัทธา 45 ไว้ที่ สภ.กะรน และยึดพื้นที่คืนตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด พระอุดมวชิรมงคล เจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต ทำหนังสือถึงเจ้าอาวาสวัดกิตติสังฆาราม หรือวัดกะตะ ให้หยุดดำเนินการใด ๆ บนยอดเขานาคเกิด บริเวณที่ตั้งองค์พระใหญ่ ข้อความในหนังสือระบุบางช่วงว่า ให้หยุดดำเนินการสร้างสิ่งปลูกสร้าง และหยุดกิจกรรมของสงฆ์ทุกกรณี และให้ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด จนกว่าการสอบสวนหาสาเหตุดินสไลด์จะเสร็จสิ้น
ขณะที่ ตำรวจ สภ.กะรน ลงพื้นที่ไปที่บริเวณทางเข้าองค์พระใหญ่ พบว่าปิดให้บริการชั่วคราวแล้ว ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่
มีข้อมูลจากอาจารย์คณะเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต บอกว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดดินถล่ม คือ ความลาดชัน ชนิดของดิน ชนิดของหิน พื้นที่ร่องน้ำ และการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ข้อมูลเหล่านี้หน่วยงานราชการมีอยู่ แต่ข้อมูลสำคัญในการเตือนภัยดินถล่ม เป็นข้อมูลการแปรผันตามช่วงเวลา ปัญหาคือ เครื่องเตือนภัยที่หน่วยงานราชการนำไปติดตั้ง ไม่สามารถใช้การได้ เนื่องจากไม่มีงบประมาณซ่อมแซม
นอกจากนี้มีรายงานว่า เจ้าของบ้านเช่าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดินถล่ม เตรียมแจ้งความดำเนินคดีหาผู้รับผิดชอบแล้ว