เซลล์หนุ่มโคราช หลงกลโปรรวมหนี้ ลดต้นลดดอก เงินกู้ 200,000 บาท แต่ถูกหลอกโอนเงินไปกว่า 8 หมื่น

เซลล์หนุ่มโคราช หลงกลโปรรวมหนี้ ลดต้นลดดอก เงินกู้ 200,000 บาท แต่ถูกหลอกโอนเงินไปกว่า 8 หมื่น

View icon 198
วันที่ 3 ก.ย. 2567 | 09.58 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ กรณีตัวอย่าง “อย่ากู้เงินทางออนไลน์เด็ดขาด” เซลล์หนุ่มโคราช หลงกลโปรรวมหนี้ ลดต้นลดดอก เงินกู้ 200,000 บาท แต่ถูกหลอกโอนเงินไปกว่า 8 หมื่น 

3 กันยายน 2567 นายพีระพันธุ์ อายุ 29 ปี ชาว อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา อาชีพพนักงานขายรถยนต์ ออกมาเปิดเผยเรื่องราวมิจฉาชีพหลอกลวง โดยแอบอ้างธนาคารชื่อดัง เสนอโปรแกรมกู้เงินสินเชื่อ “รวมหนี้ ลกต้น ลดดอก” ที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ สุดท้ายแล้วหลงกลอุบายของมิจฉาชีพที่แอบอ้างว่าเป็นพนักงานธนาคาร หลอกให้ทำรายการผ่านทางไลน์ ป้อนข้อมูลส่วนตัว จนนำไปสู่การถูกล่อลวงให้โอนเงินเข้าบัญชีมิจฉาชีพ ถึง 2 ครั้ง เสียหายรวม 80,697 บาท

ฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ กรณีตัวอย่าง “อย่ากู้เงินทางออนไลน์เด็ดขาด” นายพีระพันธ์ เล่าว่า เห็นโปรฯรวมหนี้ลดต้นลดดอกของธนาคารหนึ่ง เผยแพร่ในติ๊กต็อก จึงสนใจขอกู้เงินจำนวน 200,000 บาท เพื่อนำมาปิดหนี้บัตรเครดิตหลายใบ ตรวจสอบเป็นโพรโมชันเดียวกันกับที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของธนาคารนั้น จึงกดเข้าระบบเพื่อทำธุรกรรม ก่อนระบบพาไปสนทนาพูดคุยในไลน์ อ้างว่าเป็น Line Official ของธนาคาร มีการกรอกข้อมูลส่วนบุคคล ชื่อนามสกุล เลขบัตรประชาชน แจ้งบัญชีธนาคารสำหรับรับโอนเงิน ขณะทำรายการเป็นช่วงหลังเวลา 16.30 น. ของวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ระบบตอบกลับอัตโนมัติ ก่อนเชื่อมโยงไปยังพนักงานสินเชื่อ ถามตอบกันโดยตรง ทิ้งช่วงพิจารณาสินเชื่อ และอนุมัติภายในเวลา 1 ชั่วโมง ยอดเงินกู้ 200,000 บาท ปรากฏว่าได้จริง ๆ  จากนั้นระบบแจ้งว่า จะโอนเงินเข้าบัญชีของตนภายใน 10 นาที แต่พอผ่านไป 10 นาที ปรากฏว่า เงินยังไม่เข้าบัญชี เมื่อตรวจสอบดูในระบบพบว่า กรอกข้อมูลผิดพลาด พบว่าเลขบัตรประชาชนกับเลขบัญชีธนาคาร สูญหายไปอย่างละ 1 ตัว

พนักงานในระบบไลน์ (ผู้ชาย) โทร.ทางไลน์แจ้งว่า ลูกค้าทำรายการผิดพลาด แก้ปัญหาโดยการโอนเงิน 30,190 บาท เข้าบัญชี ตามเอกสารของทางธนาคาร CIMB ที่แจ้งผ่านทางไลน์ ซึ่งเอกสารมีลายเซ็นกำกับ พ่วงกับเอกสารจากธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้น่าเชื่อถือคิดว่าเป็นเอกสารของทางธนาคารจริง ๆ ตนจึงขอดูบัตรพนักงานของผู้ที่ติดต่อพูดคุย ซึ่งก็มีการแสดงบัตรพนักงานจริง ๆ ตนจึงตัดสินใจโอนเงินไปตามรหัสโค๊ด จำนวน 30,190 บาท พร้อมกับทำรายการแก้ไขข้อมูลที่ผิดพลาดในรอบแรก  ต่อมาพนักงานแจ้งว่า ลูกค้าทำรายการผิดพลาดอีกแล้ว อ้างมีการเขียนโน้ตลงในเอกสารสลับการโอนว่า แก้ไขความผิดพลาด ก่อนแจ้งรหัสโค๊ดให้โอนเงินเข้าระบบอีกรอบ แจ้งว่ามีข้อผิดพลาดซ้ำ ทำให้ระบบธนาคารต้องรอคิวการอนุมัติวงเงินของรายอื่น ๆ อีกเป็น 10 ราย แต่ติดปัญหาที่เราคนเดียว ธุรกรรมเดินไปแล้ว จะหยุดไม่ได้ จึงแจ้งให้โอนรอบที่ 2 อีกจำนวน 50,507 บาท ตามเลขบัตรประชาชน 13 หลัก เป็นการทำสินเชื่ออีกรอบหนึ่ง ซึ่งทำให้เราเชื่อสนิทใจว่าเป็นเงื่อนไขของทางธนาคารจริง ๆ จึงโอนเงินไปอีกรอบ 

พบว่าในระบบขึ้นยอดเงินที่เราโอนไป 2 รอบ 80,697 บาท บวกกับยอดสินเชื่อ 200,000 บาทจ รวมเป็นยอดเงิน 280,697 บาทจริง ๆ ทำให้เราเชื่อสนิทใจว่า สามารถกู้เงินได้จริง ๆ จากนั้นพนักงานที่พูดคุยกันทางไลน์ แจ้งรหัสโค๊ดตัวเลข 6 หลัก มาให้เพื่อนำไปใช้ในการเบิกเงิน ตนจึงพยายามสอบถามให้แน่ใจว่า ใส่รหัสโค๊ดได้เลยใช่หรือไม่ เพราะรหัสโค๊ดกำหนดเวลาแค่ 10 นาที ปรากฏว่าไม่มีการตอบกลับใด ๆ ตนจึงตัดสินใจใส่รหัสโค๊ดก่อนหมดเวลา  เมื่อใส่รหัสไปแล้ว มีเสียงตอบกลับอัตโนมัติแจ้งว่า “....ทำไมไม่รอพนักงานให้ใส่รหัสพร้อมกัน...” ตนจึงเริ่มสงสัยว่าเป็นการหลอกลวงหรือไม่ และมีข้อความแจ้งมาว่า ให้หาเงินจำนวน 280,697 บาท (อีก 1 เท่าตัว) เข้ามาในระบบอีกรอบหนึ่ง ตนจึงแน่ใจว่าเป็นมิจฉาชีพหลอกลวงแน่นอน เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไปหาเงินมาใส่ในระบบอีกจำนวนมาก เพราะเงินที่โอนเข้าไปในระบบ 2 รอบ ก็เป็นเงินที่หาหยิบยืมจากคนอื่นมา

ครั้งล่าสุดตนขอยืมเงินจากคนสนิทอีก 2 แสนบาท พร้อมบอกเล่าเรื่องราวให้ฟัง เพื่อนเตือนสติว่า “มึงถูกหลอกแล้ว” เมื่อตรวจสอบทางธนาคารสำนักงานใหญ่ ก็ตอบกลับมาว่า ไม่มีการทำธุรกรรมรูปแบบนี้ และมาเอะใจอีกว่าไม่มีธนาคารไหนให้ทำธุรกรรมกู้เงินหลัง 16.30 น. ของวันอาทิตย์ จึงมั่นใจว่าถูกหลอก ก่อนตัดสินใจแจ้งตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา และแจ้งตำรวจไซเบอร์ 1441 และแจ้งอายัดบัญชีเรียบร้อยแล้ว มาถึงวันนี้ตนอยากฝากถึงรัฐมนตรีดิจิตอล ที่ดูแลเกี่ยวกับอาชญากรรมเทคโนโลยี ให้หาวิธีปราบปรามมิจฉาชีพพวกนี้ให้หมดสิ้นเสียที เพราะสร้างความเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เท่าที่สอบถามที่ สภ.เมือง พบว่ามีผู้เสียหายมาแจ้งความถูกหลอกลักษณะเดียวกันไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ราย เกิดความเสียหายจำนวนมาก ที่สำคัญฝากเตือนภัย อย่าทำธุรกรรมกู้เงินออนไลน์เด็ดขาด อย่าเห็นแค่ความง่ายของการกู้สินเชื่อ อย่าให้ใครมาตกเป็นเหยื่ออีก ให้ตนเป็นตัวอย่าง รู้สึกเสียดายเงิน กว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท เลือดตาแทบกระเด็น ไม่ง่ายเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง