ล็อตใหญ่บึงกาฬ 7 ล้านเม็ด "อนุทิน" ยืนยันของกลางไม่ถูกเวียนกลับมาแพร่ระบาด ตรวจนับทุกเม็ดส่งเผาทำลายทั้งหมด ผู้ต้องหารับสารภาพขนมาแล้วหลายครั้ง เชื่อมโยงขบวนการทั้งในและนอกประเทศ
วันนี้ (4 ก.ย.67) ที่ตำรวจภูธรภาค 4 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ 4 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ ผู้ต้องหา 1 คน ยาบ้า 7 ล้านเม็ด พร้อมขยายผล เตรียมจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีกหลายราย
ปฏิบัติการในคดีนี้เป็นผลมาจากการบูรณาการร่วมกันระหว่างตำรวจ สภ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดล็อตใหญ่เข้ามาในพื้นที่ จึงร่วมกันเฝ้าระวังป้องกัน ต่อมาวันที่ 1 ก.ย.67 เวลาประมาณ 05.10 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจพื้นที่บริเวณสามแยกทางเข้าบ้านหนองคังคา ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ พบรถกระบะ หมายเลขทะเบียน 1 ขฮ 73xx กรุงเทพมหานคร บรรทุกสิ่งของเต็มท้ายรถ จอดอยู่ริมถนนโดยไม่ดับเครื่องยนต์ จึงเข้าไปตรวจสอบ ระหว่างนั้นคนขับรถได้เปิดประตูรถวิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทาง ตรวจสอบท้ายกระบะพบกระสอบสีดำ 16 กระสอบ ภายในบรรจุยาบ้ารวม 7 ล้านเม็ด
ต่อมาชุดจับกุมติดตามไปจับตัวนายธีรเดช ได้ที่บริเวณหน้า บขส.เก่า ในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 17.10 น.ของวันเดียวกัน (1 ก.ย.67) ขณะกำลังหลบหนี
ในชั้นจับกุมนายธีรเดช รับสารภาพว่า เป็นคนขับรถกระบะที่บรรทุกยาบ้าจริง โดยมีการติดต่อซื้อขายกับเครือข่าย ผ่านช่องทางแมสเซนเจอร์ ชื่อ “พารวย พารวย” ก่อนจะไปขนยาบ้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำมาส่งขายในไทย นอกจากนี้ ผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า ขนยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง โดยมีผู้ร่วมขบวนการทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตำรวจภาค 4 จะได้สืบสวนจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี และยึดอายัดทรัพย์ของเครือข่ายทั้งหมดตามกฎหมายต่อไป
นายอนุทิน กล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ พร้อมฝากเตือนไปถึงผู้คิดที่จะขนยาเสพติด ว่าเงินค่าจ้างไม่คุ้มกับโทษหนักที่เทียบเท่าเจ้าของยาเสพติด พร้อมยืนยันว่า ของกลางเหล่านี้ไม่สามารถเวียนกลับไปแพร่ระบาดได้ เพราะต้องเข้าสู่ขั้นตอนตรวจนับ และตรวจพิสูจน์โดย ป.ป.ส. และทำบัญชีเก็บไว้โดย อย.เมื่อถึงวงรอบก็นำไปเผาทำลายในเตาเผาของนิคมอุตสาหกรรม ส่วนที่มองกันว่า ยิ่งจับเหมือนยิ่งเยอะ เพราะขบวนการค้ายาเสพติดส่งของเข้ามาทดแทนในส่วนที่ถูกจับกุม
