วันนี้ (4 ก.ย. 67) ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีชายจมน้ำเสียชีวิต แต่ยังไม่สามารถนำร่างขึ้นมาจากน้ำได้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีปริมาณน้ำสูงและไหลเชี่ยว เหตุเกิดที่บริเวณคลองระบายน้ำรอบเมือง ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี
หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.กุศล สิทธิขันแก้ว สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยสายตรวจ 191 รุดไปตรวจสอบ แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี นำนักประดาน้ำ 3 นาย เข้าสนับสนุนลงค้นหาร่างผู้เสียชีวิต
ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ อาสากู้ภัยได้ทำการวางแผนงมค้นหาเรียงหน้ากระดาน ตามแผนกู้ชีพกู้ภัย ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงพบร่างนายอภิเชษฐ อายุ 53 ปี โดยมี นายนิทิต อายุ 37 ปี และ น.ส.ชิตชไม อายุ 52 ปี สองสามีภรรยซึ่งเป็นเพื่อนผู้ตายที่มาจุดเกิดเหตุด้วยกัน พร้อมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ เมื่อ น.ส.น.ส.ชิตชไม เห็นร่างของผู้ตาย ก็ได้ร้องไห้ออกมา ก่อนยกมือไหว้บอกศพว่า “ของให้ดวงวิญญาณของพี่ไปในสิ่งที่ดี ไปในสิ่งที่มีความสุขที่สุด เกิดมาชาติก็ขอให้พบแต่สิ่งดีดี ขอให้เกิดมาเป็นพี่เป็นน้องกันจริง ๆ”
น.ส.ชิตชไม เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า ตนคบหาเป็นเพื่อนกับผู้ตายมานานกว่า 30 ปี แล้ว ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอด จนสนิทกันเหมือนเป็นพี่น้องกันจริง ๆ ก่อนเกิดเหตุหลังเลิกงาน ตนและสามีชวนกันมาหาปลาที่บริเวณดังกล่าว เพราะเห็นว่าน้ำกำลังเยอะ น่าจะมีปลาอยู่เยอะ ขณะกำลังจะออกมาผู้ตายได้ขอมาด้วย เพราะอยากมาเล่นน้ำ จึงไปซื้อเบียร์มาด้วย
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ตนได้ปูเสื่อพร้อมเตรียมกับข้าวและเครื่องดื่ม นั่งตกปลาอยู่ริมตลิ่ง สามีก็ออกไปหว่านแห ส่วนผู้ตายได้นั่งดื่มเบียร์อยู่ข้าง ๆ สักพักเผู้ตายก็ไปนั่งอยู่ปลายท่อระบายน้ำ ร้องเพลงด้วยความสบายใจ แล้วก็บอกว่าไม่ได้อาบน้ำมา 3 วัน อยากอาบน้ำ จากนั้นก็กระโดดลงไปในน้ำ แล้วก็ดำผุดดำว่ายเหมือนจะจมน้ำ สามีเห็นก็รีบกระโดดลงไปช่วย จนเอาขึ้นมาได้ในรอบแรก พอขึ้นมาได้ก็ยังบอกอีกว่าคนเราไม่ตายง่ายหรอก ไม่นานก็กระโดดลงไปอีก สามีก็กระโดดลงไปช่วยอีกครั้ง แต่ก็หาร่างไม่เจอ ตนจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วย
เบื้องต้น แพทย์เวรระบุว่าผู้ตายเสียชีวิตเนื่องจากการคาดอากาศหายใจ ตามร่างกายไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย เสียชีวิตมาประมาณ 1 ชม. ด้านร้อยเวรเจ้าของคดี ได้สอบปากคำเพื่อนผู้ตาย และบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบศพให้อาสากู้ภัย นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี และจะชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง และรอญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
