โปรดเกล้าฯ ครม.แพทองธาร 35 รายชื่อ

View icon 97
วันที่ 4 ก.ย. 2567 | 16.41 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - โปรดเกล้าฯ แล้ว ครม.แพทองธาร 1 จำนวน 35 คน รายชื่อตรงตามที่เป็นข่าวทั้งหมด โดย นางสาวแพทองธาร เตรียมนำ ครม.เข้าถวายสัตย์ในช่วงเย็นวันศุกร์นี้ (6 ก.ย.) คาดแถลงนโยบาย 11 กันยายน

โปรดเกล้าฯ ครม.แพทองธาร 35 รายชื่อ
วันนี้ (4 ก.ย.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ แต่งตั้งรัฐมนตรีทั้งหมด 35 คน รวม 39 ตำแหน่ง ซึ่งรายชื่อทั้งหมด เป็นไปตามที่เสนอข่าวเมื่อวานนี้ โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, นายพิชัย ชุณหวชิร เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ส่วนรัฐมนตรีท่านอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ นายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นางสาวศุภมาส อิศรภักดี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์, พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายเดชอิศม์ ขาวทอง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 3 กันยายน พุทธศักราช 2567

ส่อง ครม.ครอบครัว สืบสายเลือด
ซึ่งในจำนวนรัฐมนตรี 35 คน บวกกับ นายกฯ หญิง อีก 1 คน เป็น 36 คน แบ่งเป็นรัฐมนตรีชาย 28 คน หญิง 8 คน เป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ป้ายแดง คือ เพิ่งเคยเป็นรัฐมนตรีครั้งแรก 8 คน รวม นายกฯ แพทองธาร ด้วย และมี 23 คนที่เคยเป็นรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลเศรษฐา มีรัฐมนตรีที่มีสัมพันธ์ทางเครือญาติกับอดีตนายกฯ และอดีตรัฐมนตรี ทั้งหมด 10 คน คนแรก คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นลูกสาว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นลูกชาย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ส่วน นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นลูกชาย นายเสนาะ เทียนทอง ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นลูกสาว นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นลูกชาย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ยุคนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

ส่วน พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นน้องชาย นายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และเป็นลูกของ นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร

ส่วน นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นลูกสาว นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ขณะที่ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นน้องชาย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายอิทธิ ศิริลัทยากร นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นคุณพ่อของ นายอรรถกร ศิริลัทยากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปิดท้ายด้วย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นลูกชาย นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี

ภูมิธรรม โต้อย่ามอง ครม.ครอบครัว
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเสียงวิจารณ์การนำคนในครอบครัวมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่า ไม่อยากให้เอาเรื่องของครอบครัวมาเกี่ยวข้อง เพราะเราวัดคนที่ความสามารถ ใครที่มีความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือไม่ใช่ ถ้ามีศักยภาพก็เอาเข้ามาทำงานร่วมกันได้ ทั้งนี้ หลังเข้าถวายสัตย์ฯ จะมีการประชุม ครม.นัดพิเศษนัดแรกทันทีเพื่อรับรอง ก่อนจะนำนโยบายแถลงต่อสภา แต่ยังไม่ระบุว่าจะกำหนดเป็นวันใด

อดิศร เมิน ครม.ครอบครัว ชี้พ่อลูกตัดไม่ขาด
ขณะที่ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ที่มองว่า เป็นครม.ครอบครัวว่า ก็แล้วแต่จะมอง ความเป็นลูกกับความเป็นพ่อมันตัดขาดไม่ได้จริง ๆ การทำงานของคนอายุใกล้จะ 40 ปี มันกระตือรือร้น ถึงยังไง นางสาวแพทองธาร ก็เป็นลูกสาวคนสุดท้องของ นายทักษิณ แม้จะมีอายุน้อย แต่ไวต่อปัญหา เหมือนน้ำไม่เต็มแก้ว ถือว่าเป็นรัฐบาลของคนทุกรุ่น เชื่้อว่า รัฐบาลแพทองธาร อย่างน้อยก็มีอายุอีก 3 ปี แน่นอน

อุ๊งอิ๊ง นำ ครม.ถวายสัตย์ 6 ก.ย.นี้
ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งรัฐมนตรี ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้ประสานแจ้งไปยังได้แจ้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ขอให้เข้ามาตรวจ คัดกรองด้วยวิธี RT-PCR ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 5 กันยายน เวลา 10.00 น. จากนั้น นายกรัฐมนตรี จะนำรัฐมนตรีชุดใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 6 กันยายน เวลา 17.00 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน จากนั้น ในวันที่ 7 กันยายน นางสาวแพทองธาร จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ เพื่อเห็นชอบนโยบายที่จะแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา จากนั้นในวันพุธที่ 11 กันยายน จะมีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และในวันจันทร์ที่ 16 กันยายน นายกรัฐมนตรี จะเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการที่ทำเนียบรัฐบาล

จตุพร ตั้งฉายา ครม.พ่อครอบครองลูก
ทีมข่าวโทรศัพท์ไปสอบถาม นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ถึง ครม.เครือญาติ ว่า ทุกอย่างผิดตั้งแต่เรียกหัวหน้าพรรคการเมืองไปพบบุคคลต้องห้ามทางการเมืองในบ้านจันทร์ส่องหล้า การได้ นางสาวแพทองธาร มาเป็นนายกฯ คุณสมบัติที่มีก็คือ นางสาวแพทองธาร เป็นลูกของ นายทักษิณ ซึ่งเมื่อถูกตั้งคำถามนี้ นายทักษิณ บอกไม่ได้ครอบงำ แต่ครอบครอง ซึ่งมันใหญ่กว่าครอบงำ มองว่า คณะรัฐมนตรีชุดนี้ จะสั้นกว่า รัฐบาลเศรษฐา ขอตั้งฉายา ครม.ชุดนี้ว่า เป็น ครม.พ่อครอบครองลูก

นายจตุพร ยังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ว่า แม้รายชื่อรัฐมนตรี จะผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติด้านกฎหมายจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว แต่ถึงที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจชี้ขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี แต่กรณีนักโทษชั้น 14 จะถูกลงมือจัดการก่อน เพราะเป็นต้นตอของปัญหาทั้งปวง เชื่อว่า การจัดการทักษิณ จะยุติลงในเดือนพฤศจิกายนนี้ ถัดจากนี้ไปไม่ใช่รักษาหน้าใคร แต่เป็นเรื่องของประเทศที่จะเสียหาย ซึ่งคนไทยต้องลุกฮือขึ้นคัดค้านโครงการทุจริต และจะไม่ยอมให้คนทุจริตมาสร้างหายนะได้อีก หวังว่า ประชาชนจะร่วมมือกันโดยแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง สามัคคีทุกฝ่าย จึงชวนประชาชนที่อึดอัดไปร่วมให้กำลังกับ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) และคณะเปิดเวทีล่วงหน้า 7 กันยายนนี้ ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา

พิชาย เปรียบรัฐบาลแพไม้ผุ
ขณะที่ รองศาสตราจารย์ ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ "เมื่อรัฐนาวา ถูกนำพาด้วยรัฐบาลแพไม้ผุ" ระบุว่า เมื่อรัฐบาลเปรียบเหมือนนาวาที่ต้องพาประเทศฝ่าฟันมรสุมแห่งความไม่แน่นอนและความท้าทาย รัฐบาลในปัจจุบันกลับดูเหมือนเป็น "แพไม้ผุ" ที่แทบไม่สามารถรับมือกับความหนักหน่วงของทะเลแห่งปัญหาได้เลย แม้โลกภายนอกจะเปลี่ยนไป แต่ภายในรัฐบาลยังคงเป็นภาพลวงตาของการสืบทอดอำนาจผ่านสายสัมพันธ์ทางครอบครัวและพรรคพวก ไม่เพียงแต่ตัวแพที่ผุกร่อน คนที่มาคุมหางเสือก็ยังขาดทั้งความสามารถและประสบการณ์ "คุณหนู" เหล่านี้เป็นทายาททางการเมือง ผู้ที่มักไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการปกครอง เหมือนพายเรือที่ไม่รู้ทาง ทั้งยังมีลูกทีมที่ไม่พร้อม

รัฐบาลนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่มีอดีตแอบแฝง หรือ เป็นทายาทของผู้ที่เคยทุจริตจึงไม่น่าแปลกใจที่จะคาดว่า "รัฐบาลแพไม้ผุ" นี้ ไม่สามารถรับมือกับมรสุมทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ทวีความรุนแรงขึ้นในยุคนี้ได้ คำถามที่เกิดขึ้นคือ รัฐบาลแพไม้ผุเช่นนี้จะนำพาประเทศไปประสบชะตากรรมใด?

เอกนัฏ ลั่นไม่ลบ-ไม่ลืมอุดมการณ์
ส่วนรัฐมนตรีหน้าใหม่ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อีกคนหนึ่ง ก็คือ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เคยร่วมชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่วันนี้กลับเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลแพทองธาร โดย นายเอกนัฏ บอกว่า ตนเป็นนักการเมือง ยินดีรับฟังทุกความเห็น ซึ่งตนต้องพิสูจน์ตัวเองในการทํางาน ยืนยันว่า ยังยึดมั่นในอุดมการณ์ทุกอย่างที่ได้ประกาศไว้ ซึ่งผลงานกับกาลเวลา จะเป็นเครื่องพิสูจน์

ยืนยันยันว่า ที่ผ่านมา 20 ปี ตนยึดมั่นอุดมการณ์ทำงานให้ประชาชน และหลังจากนี้ต่อไป จะทำงานให้เต็มที่ ให้คุ้มค่ากับโอกาสที่ได้รับมา และต้องเข้าใจว่า เวลานี้ภัยคุกคามของประเทศเปลี่ยนแปลงไป ต้องร่วมมือกัน แก้ปัญหาให้กับประเทศ ใครก็ตามที่มีความคิด มีจุดยืน และมีอุดมการณ์เดียวกัน เราก็ทำงานร่วมมือกัน เมื่อถามว่า สามารถทำงานร่วมกับ นางสาวแพทองธาร ได้อย่างสนิทใจใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ ตอบว่า ถ้าคิดถึงบ้านเมืองเป็นหลัก ก็สามารถทำงานร่วมกันได้ เราไม่ได้ลืม เราไม่ได้ลบ แต่เราเลือก

เดชอิศม์ โต้ไม่เกี่ยวค้ายา-ฆ่าคนตาย
ขณะที่ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นรัฐมนตรีใหม่ป้ายแดง ออกมาแถลงตอบโต้ กรณีสื่อมวลชนบางสำนักพาดพิงว่าไปเกี่ยวพันกับ นายเตียว วุย ฮวด หรือ โทนี่ เตียว

นักธุรกิจชาวมาเลเซียที่ถูกจับข้อหาฟอกเงินจากการค้ายาเสพติดว่าว่า นายโทนี่ เตียว รู้จักกับตนเมื่อ 5 ปีก่อน เขาไปบวช ตนก็ไปร่วมพิธีบวชด้วยตามวิญญูชนคนสงขลาทั่วไป ดังนั้น ตน และ นายโทนี่ เตียว ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่ภายหลังทราบว่า เขาทำผิดกฎหมายที่ประเทศจีน จึงถูกจับแล้วส่งตัวไปประเทศจีน

สำหรับข้อกล่าวหาเรื่องเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดนั้น ยืนยันว่า ไม่เคยต้องคดีอาญาใด ๆ ไม่ว่าจะฆ่าคนตาย ค้ายาเสพติด เพราะถ้ามีคดีเหล่านี้ จะต้องมีหมายเรียก หรือ หมายจับ ทั้งชีวิตตนมีคดีเดียว คือ คดีการเลือกตั้งที่ นายนวพล บุญญามณี เป็นผู้ฟ้อง

อุ๊งอิ๊ง อุ้มลูกชาย เข้าตึกชินวัตร 3
ส่วนความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้า เดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดย นายกฯ ได้พา "น้องธาษิณ" บุตรชายคนเล็กมาด้วย เนื่องจากไม่มีเรียน ทันทีที่เข้ามาถึง นายกรัฐมนตรี ได้โบกมือทักทายสื่อมวลชน และให้ "น้องธาษิณ" ยกมือไหว้สวัสดี พร้อมโบกมือทักทายสื่อมวลชน โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นทาการเมือง ก่อนเดินขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นไปห้องทำงานบนตึกทันที

เรืองไกร ร้อง กกต.สอบ อุ๊งอิ๊ง 2 เรื่อง
ขณะที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ใน 2 กรณี คือ เป็นกรรมการบริษัท 20 บริษัท ในจำนวนนี้มีสนามกอล์ฟอัลไพน์ด้วยว่า มีการยื่นหนังสือลาออกจากกรรมการบริษัท ในวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา จริงหรือไม่ ส่วนกรณีที่ 2 เป็นเรื่องจริยธรรม โดยตนเองยื่นคำร้องว่า นางสาวแพทองธาร ยินยอมให้ นายทักษิณ ชินวัตร พ่อ มาครอบครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องการครอบงำ ที่จะไปร้องยุบพรรค และให้ กกต. ไปดูว่าคำว่าครอบครองหนักกว่าหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ได้ร้องแค่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว แต่จะร้องหมดทุกฝ่าย ยืนยันว่าการมายื่นร้องเรียน ไม่ได้มีนัยยะทางการเมือง ส่วนที่มีคนถามว่าเป็นบุคคลนิรนามที่มาร้องเพื่อไทยหรือเปล่า ยืนยันว่า ไม่ใช่ เพราะผมไม่เคยปิดชื่อ

เปิด 10 ประเด็น ยื่นสอบ อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย
ทำให้ตอนนี้มีเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบ นางสาวแพทองธาร และ พรรคเพื่อไทย รวมกันแล้ว 10 ประเด็น แค่ นายเรืองไกร คนเดียว 4 ประเด็น ยื่นคำร้องต่อ กกต. วันนี้ 2 ประเด็น คือ 1.ให้ตรวจสอบเรื่องการถือหุ้นบริษัทของนางสาวแพทองธาร 2.เรื่องจริยธรรมนางสาวแพทองธาร ยินยอมให้ นายทักษิณ ชินวัตร ครอบครองตำแหน่งนายกฯ ส่วนอีก 2 ประเด็นที่ นายเรืองไกร ร้องก่อนหน้านี้ เป็นการยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องแรก ให้ตรวจสอบว่า นางสาวแพทองธาร เป็นเจ้าพนักงานของรัฐหรือไม่ เรื่องที่สองประเด็นที่ 2 ตรวจสอบปมรับทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด ที่โรงแรมแรมดังเขาใหญ่

ส่วนอีก 6 ประเด็น เป็นบุคคลนิรนามร้องต่อ กกต. 1.ยื่นยุบพรรคเพื่อไทย เหตุ นายทักษิณ ชี้นำ นายเศรษฐา ทวีสิน ให้แต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี 2.ให้มีคำสั่งให้กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ เพราะยอมให้ นายทักษิณ ชินวัตร ครอบงำพรรค 3.ยื่นถอดถอนนางสาวแพทองธาร เพราะเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ที่ยอมให้ นายเศรษฐา นำชื่อ นายพิชิต เป็นรัฐมนตรี 4.ให้ยุบพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากไปประชุมจัดตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เท่ากับยอมให้ นายทักษิณ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกครอบงำ 5.ยื่นถอดถอน นางสาวแพทองธาร จากกรณีทุจริตในการสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัย 6.ขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรงจากกรณีถือหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่มีปัญหาเรื่องที่ดินธรณีสงฆ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง