สถานีตรวจน้ำหนักวังน้อย (ขาออก) ไม่เปิดให้รถบรรทุกเข้าชั่งน้ำหนัก อ้างถนนทางเข้าชำรุด พบเครื่องชั่งเขรอะไปด้วยขี้นก และมีนกเข้าทำรังที่เสาเซ็นเซอร์
วันนี้ ( 4 ก.ย.67) กรณีตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. เข้าควบคุมตัวนายนพดล และนายเอนก เจ้าหน้าที่รัฐในสังกัด กรมทางหลวง และพลเรือนอีก 1 คน ร่วมกันเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการรถบรรทุก แลกกับการบรรทุกน้ำหนักเกินโดยไม่ถูกเอาผิด
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อค้นหาหลักฐาน ภายในสถานีตรวจสอบน้ำหนักวังน้อย (ขาออก) นานกว่า 2 ชั่วโมง พบว่า ไม่มีรถบรรทุกวิ่งเข้าด่านเพื่อชั่งน้ำหนักแม้แต่คันเดียว ยกเว้นรถบรรทุกคันที่ถูกเจ้าหน้าที่สุ่มเรียกทดลองชั่งน้ำหนัก ขณะเดียวกันยังพบว่าก่อนถึงด่านชั่ง จะมีป้ายบอกชัดเจนว่า “รถบรรทุกชิดซ้ายเข้าด่านชั่งน้ำหนัก” ทั้งนี้กลับพบว่ารถบรรทุกเกือบทุกคัน จะวิ่งเลนในสุด จะมีส่วนน้อยที่ออกมาขับเลนคู่ขนาน ส่วนพื้นตาชั่งที่ด่าน จะมีมูลนกเปรอะเปื้อน ส่งกลิ่นเหม็น และที่เสาเซ็นเซอร์ ที่ติดอยู่บริเวณทางเข้าก่อนถึงเครื่องชั่ง ก็พบว่ามีนกเข้าไปทำรังเอาไว้
ด้านหัวหน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนักวังน้อย (ขาออก) เผยว่า ตนเพิ่งย้ายมาประจำที่นี่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และไม่รู้เรื่องราวการเรียกรับส่วยรถบรรทุก ส่วนเครื่องชั่งประจำด่านขณะนี้ ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะทางเข้าชำรุด ซึ่งได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกรมทางหลวงแล้ว ทำให้จนถึงขณะนี้ไม่มีรถบรรทุกวิ่งเข้ามาชั่งน้ำหนัก ส่วนตาชั่งต้องรอการซ่อมแซมถนนแล้วเสร็จ จึงจะสามารถซ่อมแซมตาชั่ง ให้กลีบมาใช้ได้
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ผู้ร่วมตรวจค้นจับกุม ยังเผยสำคัญอีกว่า ปัญหาเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกิน เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง จะต้องเร่งแก้ไข เพราะหากปล่อยให้รถบรรทุกน้ำหนักเกิน วิ่งสัญจรบนท้องถนน โดยรถไม่เข้าด่านชั่งน้ำหนัก และพบว่าเจ้าหน้าที่กรมทางกลวง นำด่านลอย หรือSpot chek ที่มีทั้งหมด 12 ชุดในประเทศ ให้ชุดเฉพาะกิจออกชั่งน้ำหนักตามเส้นทางต่างๆ แทน ปัญหาที่เกิดขึ้น จะทำให้รายได้ไม่เข้ารัฐ ที่สำคัญคือถนนพังเสียหาย หากผู้มีอำนาจและมีหน้าที่ ไม่ทำเต็มที่ จะเรียกว่า “การละเลย” แต่ถ้าผู้มีอำนาจและมีหน้าที่ ไม่ทำเลย คือ “การละเว้น”
