เป่าเค้กหน้าโลงศพ หลังพ่อเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า

เป่าเค้กหน้าโลงศพ หลังพ่อเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า

View icon 204
วันที่ 4 ก.ย. 2567 | 20.34 น.
ข่าวในประเทศ
แชร์
ลูกๆ เรียกวิญญาณพ่อให้มาเป่าเค้ก  พร้อมร้องเพลงวันเกิดหน้าโลงศพทั้งน้ำตา หลังพ่อเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า

วันนี้ ( 4 ก.ย. 67 ) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งทางครอบครัวได้นำร่างมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ที่ศาลาภายในวัดวัดราษฎร์นิยมธรรม ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่วัดดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ขณะที่บรรยากาศภายในวัดพบว่าบุตรสาวและบุตรชายของผู้เสียชีวิตรายนี้ พากันซื้อเค้กวันเกิดมาจุดเทียนเชิญชวนบิดา ซึ่งเป็นผู้ตาย และมีวันคล้ายวันเกิดตรงกันในวันนี้ โดยทางบุตรและธิดาต่างพร้อมใจกันถือเค้กที่หน้าโลงศพพ่อแล้วร้องเพลงวันเกิดทั้งน้ำตาพร้อมเอ่ยปากเรียกวิญญาณพ่อให้มาเป่าเค้ก บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของทางครอบครับ

นายเอก บุตรชายคนเล็กของ ชายวัย 60 ปี ที่เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า ออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อเตือนภัยสำหรับคนที่ใกล้ชิดสุนัข โดยระบุว่า คุณพ่อจะเป็นคนที่ชอบเลี้ยงสุนัขและที่บ้านมีการเลี้ยงสุนัขไว้หลายตัว ก่อนหน้านี้ย้อนกลับไปเมื่อสองถึงสามปีที่ผ่านมา คุณพ่อเคยถูกสุนัขที่เลี้ยงไว้กัด แต่ก็ไม่ได้ไปรักษาและรับวัคซีนแต่อย่างใดและไม่เคยมีอาการหรือโรคใดๆ ในตัวพ่อ

ต่อมาช่วงต้นปีที่ผ่านมาพบว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้เริ่มทยอยตายลงจนหมดบ้าน ด้วยอาการเดียวกันหมดคือชักเกรงและมีน้ำลายฟูมปาก ซึ่งตอนนั้นก็ไม่มีใครเอะใจอะไรและคิดว่าสุนัขที่ล้มตายนั้นมาจากการถูกวางยาเบื่อ เพราะเคยมีปัญหากับข้างบ้านเรื่องเลี้ยงสุนัข หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตตามปกติแข็งแรงดีมาตลอด จนกระทั่งช่วงเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คุณพ่อเริ่มมีอาการหนาวสั่นกินน้ำไม่ได้มีอาการกลัวน้ำ จึงตัดสินใจพาคุณพ่อไปโรงพยาบาล เพราะอาการเริ่มแย่ หายใจไม่ออก จากนั้นคุณพ่อก็อาการทรุดอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมาช่วงเกือบหกโมงเย็นของวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยผลการตรวจระบุยืนยันว่าคุณพ่อเสียชีวิตจากโรคพิศุนัขบ้า

ขณะที่  นางสาวนัน บุตรสาวอีกคนของผู้ตาย เปิดใจให้สัมภาษณ์และฝากเตือนภัยสำหรับผู้ใกล้ชิดสุนัข นางสาว นัน เล่าให้กับนักข่าวเราฟังว่า วันที่พ่อเริ่มมีอาการ วันนั้นตนเองพักอยู่อีกที่ พอทราบเรื่องก็รีบนั่งรถแท็กซี่มาหาพ่อและพาพ่อขึ้นรถแท็กซี่ส่งโรงพยาบาล เนื่องจากตอนนั้นคุณพ่อมีอาการหนาวสั่นถูกลมไม่ได้ กระทั่งพาพ่อไปถึงโรงพยาบาลในช่วงมืดของวันอาทิตย์  แต่ทางเจ้าหน้าที่ประจำห้องฉุกเฉิน แจ้งว่าต้องให้พ่อรอประตูเปิด 8 โมง จึงพาพ่อไปเข้าคิวรอการตรวจรักษา โดยขณะนั้นไม่ได้มีการตรวจหรือรักษาเบื้องต้นแต่อย่าง

ช่วง 7 โมงกว่าคุณพ่อยังมีอการแข็งแรงพูดคุยได้ปกติ แต่จะมีอาการหวาดกลัวน้ำ หิวน้ำก็จะใช้วิธีสาดแก้วน้ำเข้าปากถึงจะกินน้ำได้ และกามเริ่มมีอาการกามค้าง ระหว่างที่รอพบหมอตอน 8 โมงจากตี 5 รอจนถึง 8 โมงถึงเข้าไปรักษา หลังจากนั้นก็พาคุณพ่อไปเจาะเลือดตรวจและเริ่มทรุดลงหายใจไม่ออก หลังจากที่คุณพ่อเข้ารับการรักษาและรอผลการตรวจ จนกระทั่งข้ามวัน พอกลับมาเที่ยงตนเองมาถึง รพ.ก็พบสภาพของคุณพ่อตนเองถึงกับร้องไห้

ขณะที่คุณพ่อยังพูดเป็นคำสุดท้ายบอกว่าอยากย้ายโรงพยาบาลหากอยู่รักษาที่นี่คงตายแน่ จนอาการพ่อเริ่มแย่ลงหนักขึ้นจนเจ้าหน้าที่มีการนำเอาเอกสารมาให้ตนเองเซ็นยินยอมไม่ให้ทางคุณหมอปั๊มหัวใจหรือใส่ท่อช่วยหายใจกับทางคุณพ่อให้ใช้การรักษาในทิศทางเดียวกันประคับประคองคนไข้ โดยจะไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ เพราะเกรงว่าเชื้อจะแพร่กระจาย ซึ่งตอนนั้น ตนเองก็ไม่ทราบขบวนการรักษาอีกทั้งยังตกใจกับอาการทรุดของคุณพ่อจึงยอมเซ็นเอกสารยินยอมตามที่โรงพยาบาลยื่นให้เซ็น

กระทั่งช่วงเย็นคุณพ่อได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ และผลการส่งตรวจเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าออกมาระบุยืนยันว่าติดเชื้อจริง ในส่วนของทางครอบครัว ยังคาใจเรื่องขบวนการรักษาโดยเฉพาะเรื่องให้ญาติเซ็นยินยอมไม่ให้ทางโรงพยาบาลปั๊มหัวใจหรือใส่ท่อช่วยหายใจเพราะเกรงว่าเชื้อจะแพร่กระจาย หากเกรงว่าเชื้อจะแพร่กระจายจริง ทำไมไม่ย้ายคุณพ่อมายังห้องเดี่ยวหรือห้องแยกจากห้องรวม  จึงอยากให้ทางโรงพยาบาลออกมาชี้แจ้งในเรื่องนี้ พร้อมทั้งอยากฝากเตือนภัยให้กับสังคมถึงความร้ายแรงของโรคพิษสุนัขบ้าที่เกิดขึ้นกับทางครอบครัวของตนเอง อย่ามองข้ามหรือมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว เพราะหากติดเชื้อแล้วจะมีอาการทรุดไวมาก อีกทั้งหากใครยังไม่เคยรับวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าควรไปรับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียกับทางครอบครัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง