หนุ่มเชียงรายแค้นรุ่นน้องตบหัวกลางวงเหล้า ชักมีดแทงดับกลางเมืองเชียงใหม่

หนุ่มเชียงรายแค้นรุ่นน้องตบหัวกลางวงเหล้า ชักมีดแทงดับกลางเมืองเชียงใหม่

View icon 244
วันที่ 7 ก.ย. 2567 | 12.14 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รุ่นน้องเชียงใหม่ โดยรุ่นพี่เชียงรายแทงดับ หลังไปตบหัวสั่งสอนกลางวงเหล้า

กลางดึกที่ผ่านมา (6ก.ย.67) ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาทมีผู้ถูกอาวุธมีแทงเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณสะพานลำคูไหว ถนนศรีปิงเมือง ซอย 3 ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพนายณัฐวุฒิ  อายุ 23 ปี อยู่ห่างจากสะพานไปราว 100 เมตร สภาพศพถูกแทงด้วยมีดเข้าที่ชายโครงเป็นแผลลึก ด้านหลังมีแผลถูกมีดฟันอีก 1 แผล  และ ที่เกิดเหตุมีขวดเหล้าขาวและกับแกล้มวางอยู่ ส่วนอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นมีดทำครัว ถูกโยนทิ้งเข้าไปในบ้านของชาวบ้านใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ

ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายพรชัย อายุ 32 ปี ชาว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ผู้ก่อเหตุ มีสภาพเมาหนักอยู่ในที่เกิดเหตุ ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดี และ ยังได้คุมตัวนายยุทธนา อายุ 30 ปี เพื่อนร่วมวงเหล้าอีกคนไปสอบสวน ว่ามีส่วนร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่  

โดยนายพรชัย สารภาพว่า เป็นคนลงมือใช้มีดก่อเหตุแทงนายณัฐวุฒิ  โดยก่อนหน้านี้ได้นั่งดื่มสุรากับนายยุทธนา กระทั่งร้านปิดก็ได้มานั่งดื่มต่อที่ริมสะพานลำคูไหว โดยพ่อของนายณัฐวุฒิ  ออกมาเจอทั้งคู่กำลังนั่งกินเหล้าจึงขอร่วมวงด้วย กระทั่งถึงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม  นายณัฐวุฒิมาเห็นพ่อเมานอนอยู่ริมถนน เกิดความโมโหเพราะเข้าใจว่าตนเองกับเพื่อนชวนพ่อกินเหล้า จึงเข้ามาตบหัวพร้อมต่อว่าต่อขาน ก่อนจะอุ้มพ่อที่เมาหนักกลับบ้านไป

จากนั้นไม่นานนายณัฐวุฒิ  ได้กลับออกมาหา และพูดจากข่มขู่ให้ตนเองไปซื้อเหล้าและอาหารมาให้กิน  หลังจากนายณัฐวุฒิ ดื่มจนเมา ตนเองจึงไปหยิบมีดที่อยู่ใต้เบาะรถมาแทงนายณัฐวุฒิ แต่นายณัฐวุฒิวิ่งหนีเข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อขอความช่วยเหลือ ตนเองจึงขี่รถจักรยานยนต์ตามเข้าไป พบว่านายณัฐวุฒิล้มลงเลือดนองพื้น ขณะที่ชาวบ้านต่างพากันตื่นตกใจ จนกระทั่งตำรวจมาถึงตนเองจึงยอมมอบตัวให้จับกุม ส่วนสาเหตุที่ลงมือเป็นเพราะโมโหและแค้นใจ ที่ผู้ตายไม่ให้เกียรติมาต่อว่าและตบหัวทั้งที่ตนเองอายุมากกว่า

ขณะที่ ชาวบ้านในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ระหว่างที่นายณัฐวุฒิวิ่งหนีมาถึงในชุมชน นายพรชัยที่ตามมาตะโกนว่า หากใครช่วยจะทำร้ายให้หมด ทำให้คนในชุมชนหวาดกลัวไม่กล้าเข้ามาช่วย และ ต้องหลบอยู่ในบ้าน