สาว 21 ปี ร้องถูกพ่อแฟนหนุ่มหลอกจัดงานแต่งสูญเงิน 3 แสน  เผย คบกันมา 3 ปี  เลิกกันหลังแต่งได้ 3 เดือน

สาว 21 ปี ร้องถูกพ่อแฟนหนุ่มหลอกจัดงานแต่งสูญเงิน 3 แสน เผย คบกันมา 3 ปี เลิกกันหลังแต่งได้ 3 เดือน

View icon 391
วันที่ 9 ก.ย. 2567 | 07.50 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สาว 21 ปี ร้องถูกพ่อแฟนหนุ่มหลอกจัดงานแต่งสูญเงิน 3 แสน  เผย คบกันมา 3 ปี ตั้งแต่ปี 1 ถึง ปี 3 จึงตัดสินใจแต่งงาน แต่ฝ่ายชายมีปัญหาการเงินพ่อฝ่ายชาย ก้มกราบแม่ฝ่ายหญิง ขอสำรองจ่ายเงินค่างานแต่ง เพราะหาไม่ทัน สุดท้าย ปัญหาการเงินไม่เข้าใครออกใคร ทำให้คู่รักตัดสินใจเลิกรากันหลังแต่งได้ 3 เดือน

ครอบครัวของ "น้องแมงปอ" อายุ 21 ปี ร้องทีมข่าวฯ ให้ช่วยเป็นสื่อกลางไปถึง "ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์" ถูกญาติเจ้าบ่าว หลอกยืมเงินเพื่อจัดงานแต่ง สัญญาว่า จะหามาใช้คืนทันทีหลังเสร็จพิธี แต่ก็เงียบหาย ทิ้งไว้แค่เจ้าบ่าวให้มาอยู่กินที่บ้านเจ้าสาว 

เรื่องราวความรักของบ่าว-สาวคู่นี้ คบหาดูใจกันมาตั้งแต่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยฯ ปี 1 และตัดสินใจครองรักในฐานะสามี-ภรรยา ตอนปี 3 ก็คือปีนี้ 2567 ฝ่ายชาย ได้นำพ่อและญาติมาพูดคุยเรื่องการจัดงาน เสนอเงินสินสอด 2 แสนบาท และทองหนัก 2 บาท โดยที่ครอบครัวฝ่ายหญิงไม่ได้เรียกร้อง กำหนดไว้ 21 เมษายน ที่ผ่านมา

ก่อนที่งานจะเริ่มในวันรุ่งขึ้น พ่อฝ่ายชายเข้ามาก้มกราบเท้าทั้งน้ำตา อ้างว่า หาเงินค่าสินสอดไม่ทัน ทำให้แม่ฝ่ายหญิง ต้องนำเงินเก็บทั้งชีวิต จำนวน 8 หมื่นบาท และหยิบยืมจากญาติอีก กว่า 2 แสนบาท มาสำรองจ่าย เพราะทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ทั้งการ์ดเชิญ โต๊ะจีน ค่าเช่าชุด และการตกแต่งสถานที่ หลังงานผ่านพ้นไป ญาติเจ้าบ่าวก็หายหน้าหายตากันไปหมด เรื่องเงินสินสอดไม่มีพูดถึง โทรหาก็ไม่ยอมรับสาย และเรื่องนี้เอง ทำให้ "น้องแมงปอ" ตัดสินใจขอแยกทาง และออกมาเรียกร้องทวงศักดิ์ศรีคืน

โดยนายจิรศักดิ์ อายุ 40 ปี พ่อของ นายวรภัทร อายุ 21 ปี (แฟนหนุ่ม) ได้บอกกับครอบครัวฝ่ายหญิงว่าจะนำเงินสด 200,000 บาท และทองคำ 2 บาท มาเป็นสินสอดในวันงานแต่ง โดยเสนอให้ฝ่ายหญิงจัดงานแต่งในวันที่ 21 เม.ย.67 เพราะเป็นวันเกิดของพ่อฝ่ายชาย พอถึงวันที่ 10 เม.ย.67 ทั้งพ่อและแม่ฝ่ายชายและญาติ รวม 10 คน ก็ได้เดินทางเข้ามาขออยู่ในบ้านของฝ่ายหญิง จนถึงวันงานแต่ง ซึ่งก่อนงานจะจัดขึ้น นายจิรศักดิ์ พ่อฝ่ายชาย ได้พาคู่บ่าวสาวไปจองชุดแต่งงาน จองเครื่องขันหมาก และอื่นๆที่ใช้จัดงาน

โดยได้จ่ายมัดจำบางส่วนและบอกว่าจบงานเดี่ยวจ่ายส่วนที่เหลือให้ โดยตลอด 11 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 -21 เม.ย. ครอบครัวของฝ่ายชาย ก็อาศัยกินนอนใช้ชีวิตอยู่บ้านฝ่ายหญิ งโดยครอบครัวฝ่ายหญิงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทุกอย่างเหมือนจะราบรื่นและสวยงามกับงานแต่งครั้งนี้

เมื่อถึงวันเตรียมงาน วันที่ 20 เม.ย.67 เวลา 19.00 น. นายจิรศักดิ์ (พ่อฝ่ายชาย) ได้เดินเข้ามากราบเท้า “นางผุสดี” แม่ฝ่ายหญิง ทั้งน้ำตา พร้อมว่าตนเองขอโทษ ที่ไม่สามารถหาเงินสินสอดตามที่บอกมาจัดงานได้ ขอเวลา 15 วัน หลังงานจบจะนำมาคืนให้ทุกบาท ซึ่งครอบครัวฝ่ายหญิงต้องหาวิธีแก้ไขเบื้องต้น เพราะงานจัดขึ้นแล้วเชิญแขกหมดแล้ว โต๊ะจีนมาแล้ว จึงได้นำเงินและทองทั้งหมดควักสำรองจ่ายค่าใช้จ่ายจัดงานให้งานจบ เมื่อจบงานครอบครัวฝ่ายชายก็ได้เดินทางกลับ โดยไม่รู้ว่าไปไหนมีภูมิลำเนาที่ใด ในส่วนของแฟนหนุ่มที่เป็นเจ้าบ่าวก็ยังอยู่ตามปกติ

ผ่านไป 15 วัน “นายจิรศักดิ์” (พ่อฝ่ายชาย) ก็ยังไม่นำเงินสินสอด รวม 290,000 บาท มาจ่ายตามกำหนด โดยขอผ่อนจ่ายส่งรายเดือน และจะเข้าไปทำสัญญา ซึ่งตกลงจ่ายเดือนละ 20,000 บาท เป็นเวลา 15 เดือน ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผ่านไปหนึ่งเดือน ก็ชำระ 20,000 บาทแรก และเดือนที่ 2 ชำระเพิ่มมาเพียง 8,000 บาท

โดยหลังจากนั้นก็หายหน้าและไม่รับสาย ครอบครัวฝ่ายหญิงจึงตัดสินใจที่จะไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.ขาณุวรลักษบุรี โดยตำรวจได้แนะนำให้ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมเพื่อเรียกไกลเกลี่ย โดยครอบครัวฝ่ายชาย ได้เดินทางมาที่อำเภอขาณุวรลักษบุรี เพื่อเจรารอบ 2 พร้อมทำสัญญาฉบับที่ 2 เนื่องจากชำระเดือนละ 20,000 บาทไม่ไหว จนสุดท้ายให้ชำระเดือนละ 10,000 บาท ซึ่งครอบครัวฝ่ายชายก็หายไปเลยไม่สามารถติดต่อได้

น.ส.แมงปอ อายุ 21 ปี รู้สึกสงสารพ่อและแม่อย่างมาก ที่ต้องเป็นต้อตอสาเหตุของปัญหาทั้งหมด โดยมีปากเสียงกับภู่ อายุ 21 ปี แฟนหนุ่ม บ่อยครั้งจนสุดท้ายผ่านไป 3 เดือน จึงตัดสินใจเลิกลาแยกทางกัน ซึ่งก็ยังเจอกันบ้างในมหาวิทยาลัยที่เรียนด้วยกัน โดยก่อนแต่งงานได้คบกันมาตั้งแต่ ปี 1 จนปัจจุบัน ปี 3 

เรื่องที่เกิดขึ้นจึงตัดสินใจพูดคุยกับครอบครัว นำเรื่องดังกล่าวร้องทุกข์กับสื่อมวลชนและขอความช่วยเหลือไปถึงทนายไพศาล เรื่องคดีความ ว่าจะมีวิธีไหนสามารถให้ครอบครัวฝ่ายชายรับผิดชอบค่าใช้จ่ายครั้งนี้ได้บ้าง

น.ส.แมงปอ อายุ 21 ปี เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังจากทุกคนทั้งสองฝ่ายได้ร่วมมือแก้ปัญหา แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นตนสงสารพ่อกับแม่ จึงตัดสินใจนำเรื่องราวทั้งหมดออกมานำเสนอเพื่อขอความช่วยเหลือจากทนายไพศาล ขณะนี้ต้องตัดสินใจเลิกลากับแฟนหนุ่มหลังเกิดเรื่อง 3 เดือน ตนไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง ซึ่งการจัดงานทุกอย่างมันดูเหมือนราบรื่น ใกล้ถึงวันงานพร้อมแต่งแต่กลับมาเจอปัญหาที่ไม่สามารถยกเลิกได้ เพราะพ่อแม่กลัวว่าลูกสาวจะม้ายขันหมาก จึงต้องแก้ปัญหาให้เสียหายน้อยที่สุด อยากฝากถึงพ่อของแฟนว่า อยากให้มารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำไว้ ตนไม่ได้อยากเลิกกับแฟนหนุ่มแค่เรื่องแบบนี้ ตนรู้ว่าแฟนหนุ่มก็รักพ่อเค้า เหมือนที่ตนก็รักพ่อแม่ตน ตนเชื่อว่าลูกผู้หญิงเกิดมาครั้งหนึ่งได้แต่งงาน มีครอบครัวมันก็เป็นความฝันและความสุข ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้

แม่ฝ่ายหญิง เล่าว่า ใกล้วันแต่งงาน ตนในฐานะแม่ก็มีความกระตือรือร้นเตรียมจัดงานไว้ให้ลูกสาว จนเวลา 1 ทุ่ม วันที่ 20 เม.ย.67 ก่อนงานแต่ง พ่อฝ่ายชายได้มากราบเท้าตน และขอโทษเพราะไม่มีเงินมาช่วยจัดงานตามที่บอก ทำให้ตนต้องตัดสินใจนำทองที่สะสมมาตั้งแต่ลูกสาวยังเล็ก และเงินที่ทำงานทั้งหมดนำมาสำรองจ่ายในงานแต่ง เพื่อแก้ปัญหาให้งานแต่งสำเร็จ ไม่พอก็ต้องยืมญาติพี่น้องมาจ่ายจนหมดเนื้อหมดตัว ตนอยากได้ยินความรับผิดชอบของพ่อฝ่ายชาย ถึงความเป็นลูกผู้ชายที่ต้องรักษาสัจจะที่ให้ตนไว้ ตน

พ่อฝ่ายหญิง เล่าว่า  ครั้งหนึ่งในชีวิตของลูกสาว คือการแต่งงานตนก็อยากทำให้ทุกอย่าง มีความภาคภูมิใจ ได้มีโอกาสได้รดน้ำสังข์แต่งงาน ตนไม่รู้ว่าพ่อของฝ่ายชายคิดอะไรอยู่ ถึงตัดสินใจหลอกให้จัดงานจนเสียเงินมากมายขนาดนี้ ซึ่งหากไม่มีเงินตนก็ไม่ได้เรียกร้องใดๆ แต่พ่อของฝ่ายชายกลับเสนอสินสอดและเงินทั้งหมด ทำให้ต้องจัดเตรียมจนเป็นงานใหญ่ สุดท้ายเจอปัญหาแบบนี้ก็ต้องแก้ไขให้ได้รับความเสียหายในงานน้อยที่สุด ซึ่งตลอดเวลาไม่มีพิรุธใดๆที่จะหลอกเลย

ขณะที่ฝ่ายชายได้ให้ข้อมูลว่า ไม่อยากเลิกกับฝ่ายหญิง พยามทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ชีวิตคู่ดำเนินต่อไป โดยพ่อของตนถูกโกงเงินค่ารับเหมาก่อสร้าง จึงไม่เงินเพียงพอมาจัดงานแต่งและค่าสินสอด ซึ่งขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้ ถ้าพ่อดูข่าวอยู่ ขอให้พ่อรีบติดต่อกลับ เพื่อที่จะชดเงินมาชดใช้ จะมีมากหรือน้อย ขอให้มาคุยกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง