ลุ้นอัยการคดีพิเศษ นัดสั่งคำสั่งคดีลักเรือน้ำมันเถื่อน 10 ก.ย.นี้

ลุ้นอัยการคดีพิเศษ นัดสั่งคำสั่งคดีลักเรือน้ำมันเถื่อน 10 ก.ย.นี้

View icon 142
วันที่ 9 ก.ย. 2567 | 18.52 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ลุ้นอัยการคดีพิเศษ สั่งคดีลักเรือน้ำมันเถื่อน 10 ก.ย.นี้ หลังกองปราบหอบสำนวน 6,240 แผ่น พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง 3 ข้อหาหนัก ฟอกเงิน-ลักของกลาง-ซ่องโจร ส่งอัยการพิจารณา

วันนี้ (9 ก.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามเดินทางมาที่ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ เพื่อนำสำนวน พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องและสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาคดีเรือน้ำมันเถื่อนของกลางกว่า 3 แสนลิตรหายบริเวณเทียบท่าเรือตำรวจน้ำ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 6,240 เเผ่น (15 เเฟ้ม) ส่งให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ พิจารณามีคำสั่งทางคดีต่อไป 

สำหรับคดีนี้เป็นสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 19/2567 กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม โดย พ.ต.ท.กอบชัย โตอ่อน กับพวกรวม 2 คน กล่าวหา นายสุนธร เขียวสุวรรณ กับพวกรวม 21 คน กระทำผิด ต่อมาพนักงานสอบสวนมีความเห็นควร "สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 ในความผิดฐาน "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินหรือเอกสารใด ๆ อันเจ้าพนักงานได้ยึด รักษาไว้ หรือสั่งให้ส่งเพื่อเป็นพยานหลักฐาน หรือเพื่อบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่าเจ้าพนักงานจะรักษาทรัพย์หรือเอกสารนั้นไว้เอง หรือสั่งให้ผู้นั้นหรือผู้อื่น ส่งหรือรักษาไว้ก็ตาม, เป็นอั้งยี่, เป็นช่องโจร, สมคนตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการทำควานผิด ฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน, ร่วมกันฟอกเงิน, มีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต, กระทำการในเรือในตำแหน่งผู้ควบคุมเรือโดยมิได้รับประกาศนียบัตรรับรองความรู้ความสามารถ หรือทำการในเรือในขณะที่ไปประกาศนียบัตรสิ้นอายุ และใช้เรือโดยไม่ได้รับอนุญาต

มีความเห็นควร สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 7 เเละ 11  ในความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินหรือเอกสารใดๆ อันเจ้าพนักงานได้ยึด รักษาไว้ หรือสั่งให้ส่งเพื่อเป็นพยานหลักฐานหรือเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่าเจ้าพนักงานจะรักษาทรัพย์หรือเอกสารนั้นไว้เอง หรือสั่งให้ผู้นั้นหรือผู้อื่นส่งหรือรักษาไว้ก็ตาม, เป็นอั้งยี่, เป็นช่องโจร, สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐา และได้มีการทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน, ร่วมกันฟอกเงิน, กระทำการในเรือในตำแหน่งผู้ควบคุมเรือโดยมิได้รับประกาศนียบัตรรับรองความรู้ความสามารถ หรือทำการในเรือในขณะที่ไปประกาศนียบัตรสิ้นอายุ เเละใช้เรือโดยไม่ได้รับอนุญาต

มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 2,3,4,5,6,12,13 และ 14 ในความผิดฐานร่วมกัน ลักทรัพย์ในกลางคืน โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งเเต่สองคนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินหรือเอกสารใดๆ อันเจ้าพนักงานได้ยึด รักษาไว้ หรือสั่งให้ส่งเพื่อเป็นพยานหลักฐาน หรือเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่าเจ้าพนักงานจะรักษาทรัพย์หรือเอกสารนั้นไว้เอง หรือสั่งให้ผู้นั้นหรือผู้อื่น ส่งหรือรักษาไว้ก็ตาม, เป็นอั้งยี่, เป็นช่องโจร, สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน

มีความเห็นควร "สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 15 ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันทำให้เสียหายทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินหรือเอกสารใด ๆ อันเจ้าพนักงานได้ยึดรักษาไว้ หรือสั่งให้ส่งเพื่อเป็นพยานหลักฐาน หรือเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่าเจ้าพนักงานจะรักษาทรัพย์หรือเอกสารนั้นไว้เอง หรือสั่งให้ผู้นั้นหรือผู้อื่น ส่งหรือรักษาไว้ก็ตาม และเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษรับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด, เป็นอั้งยี่, เป็นซ่องโจร, สมคบกันตั้งแต่องคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน

มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 16,17,18 และ 19  ในความผิดฐาน ร่วมกันเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป และร่วมกันเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินหรือเอกสารใดๆ อันเจ้าพนักงานได้ยึด รักษาไว้ หรือสั่งให้ส่งเพื่อเป็นพยานหลักฐาน หรือเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่าเจ้าพนักงานจะรักษาทรัพย์หรือเอกสารนั้นไว้เอง หรือสั่งให้ผู้นั้นหรือผู้อื่น ส่งหรือรักษาไว้ก็ตาม และร่วมกันเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิดฐานเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด, เป็นอั้งยี่, เป็นช่องโจร, สมคนตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน" มีความเห็นควร

และยังสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 19 ในความผิดฐานเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อขายให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด

มีความเห็นควร สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 20 และ 21 ในความผิดฐาน เปิดหรือยินยอมให้ บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด

และมีความเห็นควร สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 20 และ 21ในความผิดฐาน ร่วมกันเป็นผู้ใช้ผู้อื่นให้กระทำความผิดฐาน ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินหรือเอกสารใด ๆ อันเจ้าพนักงานได้ยึด รักษาไว้ หรือสั่งให้ส่งเพื่อเป็นพยานหลักฐาน หรือเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่าเจ้าพนักงานจะรักษาทรัพย์หรือเอกสารนั้นไว้เอง หรือสั่งให้ผู้นั้นหรือผู้อื่น ส่งหรือรักษาไว้ก็ตาม และร่วมกันเป็นผู้ใช้ผู้อื่นให้กระทำความผิดฐาน เพื่อจะช่วยผู้อื่นมีให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด

โดยภายหลังรับสำนวน อัยการมีคำสั่งตั้งคณะทำงานเป็นพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 2 เพื่อพิจารณาสำนวน เเละนัดฟังคำสั่งครั้งเเรกในวันที่ 10 ก.ย.นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง