เช้านี้ที่หมอชิต - วันนี้แล้ว ที่ "เจ้าสาวป้ายแดง" จะเข้ามาขอความเมตตาจากทนายดัง ให้ช่วยทวงคืนศักดิ์ศรีทั้งกับตัวเองและครอบครัว หลังต้องเสียตัวและยังเสียรู้ให้ญาติเจ้าบ่าวหลอกยืมเงินค่างานแต่ง
ทนายที่ว่านี้คือ นายไพศาล เรืองฤทธิ์ แต่เจ้าตัวยังไม่ทราบรายละเอียดจากปากของผู้เสียหาย รู้แค่ว่าจะเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ วันนี้
เท่าที่คิดไว้คร่าว ๆ ตั้งใจจะให้ผู้เสียหายฟ้องเอาผิดกับ "ญาติเจ้าบ่าว" ที่หลอกยืมเงินจัดงานแต่งไป แล้วผิดนัดสัญญาทิ้งภาระไว้กับครอบครัวเจ้าสาว
ทีมข่าวฯ วิดีโอคอลพูดคุยกับ "น้องแมงปอ" อีกครั้ง เธอยืนยันคำเดิม คือไม่ขอไปต่อกับชายคนนี้ เพราะสงสารพ่อแม่ที่ต้องมาเครียดหาเงินใช้หนี้ ที่เดินทางมาพบนายไพศาลวันนี้ เพราะอยากขอความเมตตาให้ช่วยเธอด้วย
สรุปที่มาที่ไปเรื่องนี้ให้ฟังกันอีกที ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงเป็นนักศึกษา รู้จักกันตอนปี 1 คบหาดูใจ ตกลงจะแต่งงานกันตอนเรียนอยู่ปี 3 ด้วยสินสอดเป็นเงินสด 200,000 บาท และทองอีก 2 บาท กำหนดจัดงานเมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา
ก่อนแต่ง 11 วัน ครอบครัวฝ่ายชายหอบกันมาอยู่ที่บ้านของฝ่ายหญิง ที่จังหวัดกำแพงเพชร เตรียมความพร้อม บ้านฝ่ายหญิงก็ดูแลความเป็นอยู่ให้ทุกอย่าง
1 วันก่อนถึงงาน พ่อของฝ่ายชายมาก้มกราบขอขมาครอบครัวของฝ่ายหญิง บอกว่าหาสินสอดมาให้ไม่ทัน ขอให้ช่วยแก้ปัญหาไปก่อน แล้วหลังจากนั้น 15 วัน จะหาเงินมาคืนให้ เป็นที่มาของครอบครัวฝ่ายหญิงที่ต้องไปหยิบยืมเงินมากู้สถานการณ์
คำมั่นสัญญาจากพ่อฝ่ายชาย คือจะผ่อนชำระเงินคืนเป็นเงินต้น 290,000 บาท จ่ายรายเดือน ๆ 20,000 บาท เป็นเวลา 15 เดือน เดือนแรกผ่านไปไม่มีปัญหา เดือนที่ 2 จ่ายอยู่ แต่เหลือแค่ 8,000 บาท จากนั้นขาดการติดต่อไป
ฝ่ายหญิงต้องไปแจ้งความ และเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรม จึงเป็นที่มาของการทำสัญญา ฉบับที่ 2 รอบนี้ กำหนดเงินผ่อนจ่ายเหลือเดือนละ 10,000 บาท แต่ก็ลงเอยเหมือนเดิม
ในโซเชียล ส่วนใหญ่ตั้งคำถามว่า ทำไมต้องแต่งงานกัน เพราะทั้งเจ้าบ่าว และเจ้าสาวก็ยังเรียนไม่จบ ยังรับผิดชอบตัวเองไม่ได้ แล้วจัดงานแต่งงานใหญ่โต สุดท้ายจะมีความสุขได้จริง ๆ หรือเปล่า แนะนำถ้าอยากหาทางออก คนที่ต้องแก้ คือฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ที่ต้องออกไปหางานทำ แล้วนำเงินมาใช้หนี้
พ่อฝ่ายชายยอมรับว่าขาดสภาพคล่องเรื่องเงิน เพราะมีปัญหาเรื่องงาน แต่ยืนยันว่าจะหาเงินชดใช้ให้ฝ่ายหญิง
