เกษตรกรบ้านนาเพียง จ.ขอนแก่น เปลี่ยนจากแปลงผักเป็นสวนกล้วยหอมทอง สร้างรายได้ที่ กิโลกรัมละ 42 บาท

เกษตรกรบ้านนาเพียง จ.ขอนแก่น เปลี่ยนจากแปลงผักเป็นสวนกล้วยหอมทอง สร้างรายได้ที่ กิโลกรัมละ 42 บาท

View icon 146
วันที่ 10 ก.ย. 2567 | 16.14 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (10 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอ่อนสี อายุ 62 ปี เจ้าของสวนกล้วยหอม พาผู้สื่อข่าวไปดูสวนกล้วยหอมทอง ที่ตนปลูกไว้ จำนวน 1,200 ต้น บนพื้นที่กว่า 3 ไร่  ซึ่งกำลังออกผลผลิต ใกล้จะตัดหวีขาย หลังช่วงนี้กล้วยหอมทอง ขายได้ราคาดี รวมทั้งหนอพันธุ์ ที่กำลังทยอย แตกหนอออกจากลำต้น เกษตรกรต้องขุดมาวางขาย สร้างรายได้ดีในช่วงหน้าฝน ชาวบ้านแวะซื้อไปทำพันธุ์ต่อเป็นจำนวนมาก

นางอ่อนสี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้ปลูกผักขายมานานนับ10 ปี โดยผักที่ปลูก คือ กุยช่าย พริก และพืชผักตามฤดูกาล  แต่เพราะพืชผักเหล่านั้น ต้องใช้สารเคมีและน้ำจำนวนมาก  ยากต่อการดูแล และเป็นอันตรายต่อตนเอง บางช่วงขณะกำลังจะเก็บขาย  ก็มาเหี่ยวเฉาแห้งตาย  ตนเองจึงหันมาปลูกกล้วยหอมทองขาย สร้างรายได้ดี  ซึ่งปลูกมาได้ประมาณ  3-4 ปีแล้ว ปลูกช่วงแรก เป็นช่วงโรคโควิดระบาดพอดี ทำให้กล้วยขายไม่ค่อยได้ เน่าเสียทิ้งไปเป็นจำนวนมาก

โดยนางอ่อนสี เล่าต่ออีกว่า กล้วยหอมทองที่ปลูกนอกจากจะขายผลกล้วยแล้ว  ยังสามารถตัดปลีกล้วยขาย ในราคาปลีละ 10 -15 บาท ด้วย แล้วแต่ขนาดเล็กใหญ่

นอกจากนี้หน่อพันธุ์ กล้วยหอมทอง ยังสามารถขายได้  โดยหน่อกล้วยที่ผ่านการเพาะชำ เพื่อให้รากงอกพร้อมปลูก จะขายราคาหน่อล่ะ 60 บาท ซื้อ 3 หนอ ขาย 100 บาท โดยมีลูกค้าสนใจซื้อไปปลูก จนไม่พอขาย เพราะกล้วยหอมทอง เป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลอะไรมาก เพียงแต่ช่วงหน้าฝนนี้ กล้วยได้น้ำมาก ต้นใบจะเหลือง เจริญเติบโตช้า และจะต้องดูแลเรื่องเชื้อรา

โดยอาจจะมีการฉีดสารเพื่อฆ่าเชื้อราเดือนละ 1 ครั้ง  แต่หน้าที่ปลูกกล้วยได้ผลดี คือช่วงหน้าร้อน โดยใช้วิธีรดน้ำให้พอดี  จะโตกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปีนี้ยอมรับว่า กล้วยราคาดี โดยฉพาะกล้วยหอมทอง ราคากิโลละ 30-35  บาท  ยิ่งช่วงที่กล้วยขึ้นราคา ขายได้ถึง กก. ละ 42 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง