ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คุณผู้ชมจำเหตุการณ์สะพานถล่มที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อ 11 ปีก่อนได้ไหม วันนี้ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษา ให้เทศบาลตำบลท่าหลวง ชดใช้ค่าเสียหายให้ครอบครัวเด็กหญิง 10 ขวบที่เสียชีวิต 2.6 ล้านบาท
เป็น 11 ปี ที่รอคอยของเหยื่อสะพานแขวนถล่ม เมื่อเดือนเมษายนปี 2556 สะพานดังกล่าว คือ สะพานแขวนสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ซึ่งสร้างเชื่อมพื้นที่สองฟากฝั่งแม่น้ำป่าสัก คือฝั่งวัดสะตือ และวัดไก่จ้น ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา ใช้งบก่อสร้าง 8 ล้านกว่าบาท แต่ใช้อุปกรณ์ก่อสร้างผิดจากแบบ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บ 14 คน
เหตุการณ์ครั้งนั้น นายอนุนาท เสือสมิง สูญเสียลูกสาววัย 10 ขวบไปด้วย เขาจึงฟ้องละเมิดเทศบาลตำบลท่าหลวง และบริษัทก่อสร้าง รวมทั้งอดีตหัวหน้ากลุ่มงานวิชาการโยธาธิการ วิศวกรชำนาญการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ซึ่งศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาเมื่อปี 60 หรือเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ให้เทศบาลท่าหลวง และบริษัทก่อสร้าง ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แก่ครอบครัวนายอนุนาท 2,640,000 บาท แต่ทั้งสองฝ่าย ใช้สิทธิ์อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ทำให้ยังไม่ได้รับการชดใช้ค่าเสียหาย
กระทั่งวันนี้ ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้เทศบาลตำบลท่าหลวง ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 2,600,000 บาท แก่ครอบครัวของนายอนุนาท ภายใน 60 วัน นับจากวันพิพากษา และยกฟ้องบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง และอดีตหัวหน้ากลุ่มงานวิชาการโยธาธิการ วิศวกรชำนาญการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายอนุนาท ซึ่งวันนี้ ติดรูปลูกสาวที่เสียชีวิต ที่กระเป๋าเสื้อ มาฟังคำพิพากษา บอกว่า คดีนี้ยืดเยื้อยาวนานมาเกือบ 11 ปี เป็นความเจ็บปวดของครอบครัวผู้สูญเสีย ดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเยียวยาให้ผู้สูญเสีย ไม่ใช่ปล่อยให้ต้องฟ้องคดี และรอคำพิพากษายาวนานแบบนี้
ส่วนการดำเนินคดีอาญานั้น เมื่อปี 64 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 พิพากษาจำคุกวิศวกร 2 คน คนละ 6 ปี แต่ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุกคนละ 3 ปี ส่วนบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ปรับ 80,000 บาท แต่รับสารภาพ ลดโทษค่าปรับเป็น 46,000 บาท และกรรมการผู้จัดการบริษัทก่อสร้างดังกล่าว พิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับ 80,000 บาท แต่รับสารภาพ ลดโทษเป็นปรับ 46,000 บาท จำคุก 3 ปี โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษ