เช้านี้ที่หมอชิต - เตือนผู้ใช้รถทุกคนควรตรวจเช็กประตูหลังกดรีโมตทุกครั้งว่าได้ล็อกจริงหรือไม่ เพราะคดีล่าสุดตำรวจกองปราบจับชาวจีน 2 คน ใช้เครื่องตัดสัญญาณรีโมต ก่อนเข้าไปลักทรัพย์
นี่เป็นภาพที่ตำรวจถ่ายขณะดักซุ่มจับกุมคนร้าย เป็นชายสัญญาติจีน 2 คน คนหนึ่งโทรประสานงาน ส่วนอีกคนเข้าประกบเป้าหมาย ทำทีคุยกับเจ้าของรถเบี่ยงเบนความสนใจ เหตุเกิดที่จุดพักรถมอเตอร์เวย์ ขาออก อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา วันที่ 13 กันยายน
แม้ผู้เสียหายรอบคอบ แต่เมื่อถูกคนแปลกหน้าทักขณะล็อกประตู ก็ลืมตรวจสอบได้เช่นกัน แล้วพอเจ้าของรถเดินจากไป ชาวจีนก็เปิดประตูเข้าไปขโมยทรัพย์สินที่อยู่ในรถ โดยเฉพาะบัตรเครดิต
ตำรวจบอกว่า จากข้อมูล เจ้าหน้าที่ธนาคาร ระบุว่า คนร้ายนำบัตรเครดิตไปรูดที่ร้านค้าต่างประเทศเพื่อเอาเงินออก สอดคล้องกับคดีก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายถูกขโมยบัตรเครดิต 3 ใบ รูดเงินออกเสียหายกว่า 500,000 บาท
คนร้ายก่อเหตุต่อหน้าตำรวจ จึงถูกจับในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อ คือ นายเจิ้งจิน (ZHANGJIN) อายุ 38 ปี และ นายเจิ้งหง (ZHENGHONG) อายุ 31 ปี สัญชาติจีน พร้อมเครื่องตัดสัญญาณรีโมต 1 เครื่อง ซุกซ่อนในกระเป๋าสะพายข้าง กุญแจ และรถเช่า 1 คัน
ผลการสอบปากคำ นายเจิ้งจิน ให้การปฏิเสธ ส่วน นายเจิ้งหง ให้การรับสารภาพ ตำรวจยังพบหญิงไทย แฟนสาวของนายเจิ้งหง ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน ตำรวจจึงขยายผลจับกุมที่คอนโดมิเนียม ย่านพระราม 9 ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตัวเอง (แฟนสาว) เป็นผู้เช่ารถให้ชาวจีนขับมุ่งหน้าไปจังหวัดชลบุรี ก่อนที่ชาวจีนจะส่งตัวเองไปนั่งรอในร้านกาแฟ ที่จุดพักรถมอเตอร์เวย์ ขาเข้า จากนั้นก็ขับวกมาก่อเหตุที่จุดพักรถมอเตอร์เวย์ ขาออก
และจากการตรวจค้นคอนโดมิเนียม พบคีตามีนภายในห้องพัก จึงส่งดำเนินคดี ข้อหา มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนความผิดอื่น ๆ เกี่ยวกับแก๊งชาวจีน ยังไม่พบความเชื่อมโยง
ตำรวจเชื่อว่าคดีนี้กลุ่มคนร้ายเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซนเตอร์ เนื่องจากผลการสอบปากคำแฟนสาวและหนุ่มจีน ระบุว่า นายเจิ้งจิน และ นายเจิ้งหง รู้จักกันเพราะเคยทำงานในแก๊งคอลเซนเตอร์เครือข่ายเดียวกัน เบื้องต้น ตำรวจพบสมาชิกในแก๊งเป็นชาวจีนที่ร่วมขบวนการอีก 2 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลจับกุม
