เจ้าของร้านเสื้อ ทุกข์! เป็นหนี้ 30 ล้าน โดน กทม. เบี้ยวค่าเสื้อ

เจ้าของร้านเสื้อ ทุกข์! เป็นหนี้ 30 ล้าน โดน กทม. เบี้ยวค่าเสื้อ

View icon 174
วันที่ 16 ก.ย. 2567 | 14.53 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เจ้าของร้านเสื้อ ทุกข์ใจ! ร้อง "ทนายตั้ม" ถูก กทม. เบี้ยวจ่าย หลังสั่งเสื้อกว่า 2 แสนตัว ทำให้เป็นหนี้ 30 ล้านบาท 

16 ก.ย. 67 น.ส.ยุวดี อายุ 60 ปี เจ้าของร้านเสื้อ เข้าร้องทุกข์กับทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หลังเมื่อปี 2560 ถูกกรุงเทพมหานคร สมัยผู้ว่าราชการอัศวิน ขวัญเมือง สั่งผลิตเสื้อโปโล ผ้าไนกี้ สีขาวดำ ปักโลโก้กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แสนตัว ราคา 49.6 ล้านบาท เพื่อให้เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครใส่ แต่เมื่อผลิตเสร็จ ทางกรุงเทพมหานคร อ้างว่าไม่มีงบจ่ายค่าเสื้อ ทำให้ น.ส.ยุวดี ต้องเป็นหนี้ 30 ล้านบาท จากต้นทุนการผลิตเสื้อ

น.ส.ยุวดี กล่าวว่า ตนเองได้รับการติดต่อจากผู้อำนวยการสำนักการคลัง กรุงเทพมหานคร สั่งทำเสื้อดำ 1 แสนตัว และสีขาวอีก 1 แสนตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการของกรุงเทพมหานครที่จะให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดใส่ในช่วงพระราชพิธี โดยผู้อำนวยการคนดังกล่าวให้ตนเองเริ่มผลิตเสื้อได้เลย เนื่องจากระยะเวลากระชั้นชิด แล้วจะนำหนังสือสัญญามาให้เซ็นภายหลัง ตนเองจึงเริ่มผลิต แต่ต่อมามีการนำเสนอข่าวว่าการจัดสั่งซื้อเสื้อกันฝนของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดังกล่าวเช่นกัน มีราคาแพงผิดปกติ สุดท้ายทำให้กรุงเทพมหานคร ต้องยกเลิกโครงการไป ทั้งที่ตนเองผลิตเสื้อสีดำเสร็จแล้ว 1 แสนตัว ส่วนสีขาวอีก 1 แสนตัวก็ซื้อผ้ามาแล้ว

ตนเองพยายามติดต่อไปทางผู้อำนวยการคนดังกล่าวให้ซื้อเสื้อ แต่ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีงบสั่งซื้อแล้ว เมื่อตนเองบอกว่าจะฟ้อง อีกฝ่ายก็บอกว่าเดี๋ยวจะหาทางช่วยเหลือ ด้วยความไว้ใจผู้อำนวยการคนนี้ ตนเองจึงยอมรอ ไม่ฟ้อง ก่อนที่สุดท้ายแล้วผู้อำนวยการคนนี้ยอมซื้อเสื้อ 50,000 ตัว ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายก่อนที่คดีจะหมดอายุความ 2 ปี จากนั้นก็ไม่มีความคืบหน้าเรื่องการซื้อเสื้ออีกเลย และผู้อำนวยการคนนี้ได้เกษียณอายุราชการไป ทำให้ตนเองยังมีเสื้อสีดำค้างสต็อกอยู่ 50,000 ตัว และผ้าขาวใช้ทำเสื้ออีก 1 แสนตัว ต้องแบกรับหนี้สินจำนวนมาก จะไปฟ้องก็ไม่ทันแล้ว เพราะหมดอายุความ

ทำได้เพียงยื่นถวายฎีกา ซึ่งทางสำนักพระราชวังก็ทำหนังสือให้กรุงเทพมหานครแก้ไขเยียวยาผู้ได้รับความเดือดร้อน แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ตนเองต้องไปกู้เงินทั้งในและนอกระบบมาหมุนธุรกิจ นำบ้านไปจำนองธนาคาร ปัจจุบันเป็นหนี้ธนาคาร 15 ล้านบาท จนถูกธนาคารฟ้องขับไล่ออกจากบ้านเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่ตนเองก็ย้ายไปไหนไม่ได้ เพราะแม่ก็ล้มป่วยติดเตียง และลูกก็ยังเรียนหนังสืออยู่ จนตอนนี้หมดสิ้นประดาตัว เมื่อไม่ย้ายออก สุดท้ายเมื่อต้นปีที่ผ่านมาตนเองก็ถูกศาลออกหมายจับ เนื่องจากขัดคำสั่งศาลที่ให้ออกจากพื้นที่พิพาท

ด้านทนายษิทราบอกว่า ในด้านกฎหมายคงช่วยเหลือได้ยาก เพราะคดีหมดอายุความแล้ว ดังนั้นจึงวอนขอให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนปัจุบัน พิจารณาซื้อเสื้อดังกล่าวจากผู้เสียหาย เนื่องจากเสื้อมีการปักชื่อหน่วยงานไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถขายให้หน่วยงานอื่นได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง