สนามข่าว 7 สี - นึกว่ามีแต่ในละคร ! เรื่องโรงพยาบาลสลับตัวเด็กทารก ถึงกับต้องตรวจ DNA และพบว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง ซึ่งยืดเยื้อกันมาสักระยะ ล่าสุดทางโรงพยาบาลยอมรับผิด และเยียวยาทั้ง 2 ครอบครัว
ต้นเรื่องนี้มาจากที่พ่อของเด็ก โพสต์เล่าถึงความสะเพร่าของโรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรสาคร สลับตัวเด็กแรกเกิด พ่อท่านนี้ เล่าว่า ลูกสาวเกิด 11 สิงหาคม น้องมีอาการหายใจเร็ว ต้องแยกไปอยู่ห้องอภิบาล เพื่อให้ยาฆ่าเชื้อ 7 วัน (12-16 ส.ค.) ระหว่างไปเยี่ยมลูก จะแอบถ่ายรูปลูกเก็บไว้
กระทั่งวันที่ 17 สิงหาคม เริ่มพบความผิดปกติ หน้าตาของลูกเปลี่ยนไป ผมสั้นลง คิ้วหาย ป้ายชื่อที่ข้อมือก็หาย เสื้อผ้า ผ้าขนหนูไม่ใช่ของน้อง สอบถามพยาบาล บอกว่า ป้ายชื่ออาจจะหลุดตอนอาบน้ำ ส่วนเสื้อผ้าอาจมีการสลับกันได้
18 สิงหาคม ครบกำหนด หมอให้กลับบ้าน พอได้เห็นเด็กใกล้ ๆ และนำไปเทียบกับรูปที่ถ่าย ยิ่งเห็นชัดว่าเป็นคนละคน จึงโทรไปหาโรงพยาบาล ได้คำตอบว่าเด็กทารกหน้าตาเปลี่ยนได้ทุกวัน
21 สิงหาคม พาเด็กไปโรงพยาบาลอีกครั้ง เพื่อเล่าเหตุการณ์ให้พยาบาลฟังทั้งหมด ก่อนจะเริ่มเจาะเลือดพิสูจน์
ทางรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล จึงเริ่มสืบค้นว่าสลับกับครอบครัวใด ก่อนจะพบครอบครัวชาวเมียนมา จากนั้นเข้าสู่การตรวจ DNA
15 กันยายน ความจริงปรากฏ ! ผลชัดว่าเด็กสลับกันจริง ทางโรงพยาบาลจึงรับผิด และเยียวยาด้วยการให้สิทธิรักษาเด็กฟรีแบบพิเศษ (ไม่ต้องต่อคิว) จนเด็กอายุครบ 20 ปี และชดเชยครอบครัวละ 100,000 บาท ตามที่เสนอไป
มาฟังทางฝั่งโรงพยาบาล บอกว่า สาเหตุเพราะระหว่างให้ยาฆ่าเชื้อ มีพยาบาล 2 คนเข้าเวร หนึ่งในนั้นเป็นผู้ถอดป้ายชื่อที่ข้อมือออกเพื่อความสะดวก ตอนนี้สั่งกำชับ ทุกครั้งที่ทำหัตถการ ต้องผูกป้ายชื่อกลับคืนทันที และให้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
ส่วนพ่อเมียนมา บอกเพียงสั้น ๆ ว่า ทางครอบครัวพาลูกออกจากโรงพยาบาล ก่อนครอบครัวไทยเพียง 1 วัน และไม่เคยเอะใจมาก่อน
