หลักฐานมัดคนขายเคมีภัณฑ์ ต้นตอ ยาดองมรณะ

View icon 187
วันที่ 17 ก.ย. 2567 | 06.13 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - คดียาดองมรณะ ไป ๆ มา ๆ ต้องใช้คำว่า "คดีพลิก" จากเจ้าของร้านขายเคมีภัณฑ์ ที่ยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่าขาย "เอทิลแอลกอฮอล์" ให้สองพี่น้องไป ตำรวจกลับไปเจอว่าสรุปแล้วที่ขาย เป็น "เมทิลแอลกอฮอล์"

นี่เป็นภาพวงจรปิด ขณะที่มีการซื้อขายสารตั้งต้น ที่มีข้อถกเถียงว่าเป็น "เอทิลแอลกอฮอล์" หรือเป็น "เมทิลแอลกอฮอล์" กันแน่ เพราะถ้าเป็นอย่างแรก จะเป็นสารตั้งต้นที่ใช้ผลิตสิ่งของที่กินได้ แต่ถ้าเป็นอย่างหลังจะไม่สามารถใช้ผลิตสิ่งของที่กินได้ และถ้ากินเข้าไป จะเป็นพิษต่อร่างกาย

ซึ่งตอนที่ตำรวจไล่เรียงไทม์ไลน์ จนมาเจอ นายสุรศักดิ์ หรือ "เอส" และ นายสุรชัย หรือ "อาร์ท" สองพี่น้องที่รับว่าได้ผลิต "สุราขาว" ก่อนจะขายให้ นางสาวภัสส์รศา หรือ "เจ๊ปู" ไปใช้ทำยาดอง แล้วเกิดปัญหา

ทั้งสองคนได้ไปซื้อสารตั้งต้นตัวนี้กับ "อีฟ" เจ้าของร้านขายเคมีภัณฑ์ ในซอยขจรวิทย์ ถนนเทพารักษ์ ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่ง "อีฟ" ก็ยืนยันว่าได้ขาย "เอทิลแอลกอฮอล์ 95%" ให้ไป ปริมาณ 18 ลิตร และเคยให้สัมภาษณ์ย้ำเรื่องนี้มาแล้ว

ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจน เจอว่า ก่อนที่จะมีการขายสารตั้งต้นตัวนี้ให้กับสองพี่น้อง ได้สั่งซื้อเคมีภัณฑ์ จากห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ในอำเภอพระสมุทรเจดีย์ และจากการสอบถามกับ "หจก." ยืนยันว่าที่ขายไปคือ "เมทิลแอลกอฮอล์" เพราะมาสั่งซื้อเคมีภัณฑ์ตัวนี้

ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ไปขอศาลฯ ออกหมายจับ อีฟ ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันปลอมปนอาหารให้คนอื่นเสพ หรือ ใช้ เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และถึงแก่ความตาย ก่อนจะเข้าจับกุม "อีฟ" ที่ร้านฯ ไปดำเนินคดี

ขณะที่ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงสรุปข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่า หลังนำหมายศาลไปจับกุม "อีฟ" ยังคงยืนกรานให้การตามเดิม ว่าร้านไม่ได้จำหน่าย "เมทิลแอลกอฮอล์" แต่ตำรวจมีหลักฐานที่สามารถยืนยันการกระทำผิดได้ และเชื่อว่าเหตุที่ทำแบบนี้ เพราะส่วนความแตกต่างของราคาเคมีภัณฑ์ทั้งสองชนิด ที่แพงต่างกันถึงลิตรละ 100 บาท

ทนายความของ "อีฟ" แจ้งต่อพนักงานสอบสวน ว่ายังไม่พร้อมรับฟังการสอบสวน ตำรวจจึงได้แต่คุมตัวผู้ต้องหาไว้ 1 คืน รอการสอบปากคำ วันนี้ (17 ก.ย.)

สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคลัสเตอร์ ยาดองมรณะ วันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา ยืนยันผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ที่ 44 คน รักษาหายแล้ว 31 คน อาการสาหัสยัง รักษาตัวในโรงพยาบาล 3 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิต และยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 10 คน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง