ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจยังเค้นสอบเยาวชนชายทั้ง 3 คน ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ที่ถูกคุมตัวไว้ หลังก่อเหตุใช้มีดไล่ฟัน แล้วใช้เท้าถีบวัยรุ่นหญิง จนเสียชีวิตในจังหวัดนครปฐม เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และพกพาอาวุธมีด เตรียมควบคุมตัวฝากขังศาลเยาวชนวันนี้
เป็นคลิปภาพจากกล้องวงจรปิด ริมถนนเพชรเกษม อำเภอเมืองนครปฐม ที่นักศึกษาสาว ปวส. ปี 1 ของวิทยาลัยอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ที่เสียชีวิตในสภาพคอหักอยู่บนถนน หลังจากถูกกลุ่มวัยรุ่นชาย ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ตามประกบ แล้วใช้มีดฟัน ก่อนใช้เท้าถีบ จนรถล้มลื่น คอหักเสียชีวิต
โดยเย็นวานนี้ ตำรวจตามจับกุมผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเยาวชนชายอายุ 14 ปี 3 คน ได้พร้อมรถจักรยานยนต์ และมีดที่ใช้ก่อเหตุ มาสอบสวน รับสารภาพก่อเหตุเพราะคึกคะนอง และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ขณะที่ ที่ศพของผู้เสียชีวิต ถูกนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดห้วยจระเข้ โดยญาติของผู้เสียชีวิตยืนยัน จะดำเนินคดีกับทั้ง 3 คนให้ถึงที่สุด
ส่วนการตรวจสอบประวัติพบว่า 1 ใน 3 คน มีประวัติถูกไล่ออกจากโรงเรียนมาก่อน ล่าสุดตำรวจ ยังคุมตัวเยาวชนทั้ง 3 คน สอบสวนร่วมกับทีมสหวิชาชีพอยู่ เบื่องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย, แจ้งพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ว่าจะแจ้งข้อ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองเพิ่มด้วยหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้ เตรียมนำเยาวชนทั้ง 3 คน ส่งศาลเยาวชนจังหวัดนครปฐม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
มีความเห็น อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ให้ข้อมูลว่า ศาลฯ มีมาตรการพิเศษในการแก้ปัญหาเด็กและเยาวชน แทนการดำเนินคดีอาญา เช่น กรณีคดีที่มีอัตราโทษไม่เกิน 5 ปี เช่น คดีลักทรัพย์, ทำร้ายร่างกาย จะเสนอแผนต่ออัยการ และส่งมาที่ศาล หากเด็ก หรือ เยาวชน ปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูได้ อัยการก็จะสั่งไม่ฟ้อง และไม่สั่งคดี แต่หากเป็นคดีที่มีโทษทางอาญามากกว่า 20 ปี จริง ๆ ก็ยังสามารถเข้าสู่แผนฟื้นฟูนี้ได้ แต่ก็จะมีการบังคับเรื่องการชดใช้ค่าเสียหาย และยึดของกลาง เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้กลับตัวเป็นคนดีต่อไป
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลด้วยว่า ช่วงอายุของเด็กที่กระทำความผิด ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง หลังจากจบ ป.6 ถึง ม.3 เพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และเกิดช่องว่างกับผู้ปกครอง รองลงมาเป็นช่วงที่เรียนชั้น ม.4 ถึง ม.6