เกิดฝนตกหนัก และมีลมซัดฝั่งแรง ทำให้เรือประมงพื้นบ้าน ที่เกาะลิบง ถูกคลื่นซัดจมทะเล 7 ลำ ส่วนรีสอร์ตบ้านชาวบ้านพังเสียหายหลายหลัง การช่วยเหลือถูกตัดขาด สถานการณ์รุนแรงสุดในรอบ 30 ปี
เมื่อวันที่ 18 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผย จากนายอ่าสาน คนขยัน หรือผู้ใหญ่สาน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เผยว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา ที่เกาะลิบงเกิดเหตุเรือประมงพื้นบ้านล่มจำนวน 7 ลำ หลังเกิดฝนตก และลมพายุในทะเลฝั่งอันดามัน โดยชาวบ้านได้ช่วยกันกู้ซากเรือที่จมอยู่ในทะเลขึ้นมาบนฝั่ง ขณะเดียวกันฝนและลมพายุที่พัดกระหน่ำทำให้รีสอร์ต และบ้านเรือนชาวบ้านเสียหายหลายหลัง ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ ซึ่งชาวบ้านต้องช่วยเหลือตัวเองไปก่อน เนื่องจากเรือไม่สามารถสัญจรทางทะเลได้ เพราะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ทั้งนี้จังหวัดตรังยังคงมีพายุ คลื่นลมแรง และฝนตกหนักต่อเนื่อง เป็นเหตุให้ไม่สามารถใช้เรือโดยสารข้ามระหว่างท่าเรือหาดยาว กับเกาะลิบงได้
จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้น มีเรือประมงจมเสียหาย 7 ลำ รีสอร์ต หลังคาบ้านเรือนพังเสียหายเนื่องจากมีลมแรง โดยทางผู้นำชุมชนได้รายงานไปยังจังหวัดทราบเรื่องแล้ว ส่วนการให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นเกาะการเดินทางในทะเลตอนนี้ไม่สามารถสัญจรได้ ขณะเดียวกันในช่วงหน้ามรสุมนี้ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้าน และประมงพื้นบ้านงดนำเรือออกจากฝั่ง ต้องฟังประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และคำแจ้งเตือนจากทางการอย่างเคร่งครัด เหตุการณ์มรสุมครั้งนี้ถือว่าแรงสุดในรอบ 30 ปี ฝนมาเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา