ไกด์เถื่อนต่างชาติ ทำร้ายนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน กลางร้านจูเวลรีชื่อดัง ย่านลาดกระบัง

ไกด์เถื่อนต่างชาติ ทำร้ายนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน กลางร้านจูเวลรีชื่อดัง ย่านลาดกระบัง

View icon 124
วันที่ 19 ก.ย. 2567 | 08.12 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สะเทือนวงการท่องเที่ยวอีกแล้ว หลังมีคลิปฉาวไกด์เถื่อนต่างชาติ ทำร้ายนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน กลางร้านจูเวลรีชื่อดัง ย่านลาดกระบัง เพราะไม่พอใจที่นักท่องเที่ยวสาวชาวจีน ไม่ซื้อสินค้าร้านที่แนะนำให้ ทำให้ไกด์เถื่อนต่างชาติ ไม่ได้ค่าตอบแทน

หนุ่มไกด์เถื่อนต่างชาติ ทะเลาะกับนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน ไกด์เถื่อนต่างชาติรายนี้ โวยวายต่อว่านักท่องเที่ยวว่า ทำไมไม่ซื้อสินค้าที่ร้าน ซึ่งไม่ให้เกียรติไกด์ ก่อนที่หนุ่มไกด์เถื่อน จะบุกเข้าไปผลักนักท่องเที่ยวสาว เพื่อไม่ให้ถ่ายคลิป จนนักท่องเที่ยวสาวรายนี้ ร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของร้านจะมาเอาตัวไกด์เถื่อนรายนี้ออกไป แล้วคลิปก็ถูกตัดไป ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ร้านจูเวลรีชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านลาดกระบัง เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา

ซึ่งร้านจูเวลรีแห่งนี้ เป็นที่รู้จักในวงการท่องเที่ยวว่าเป็นร้านที่รับทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยเฉพาะ ซึ่งไกด์เถื่อนต่างชาติจะนำนักท่องเที่ยวให้มาซื้อสินค้าที่นี่ เพื่อรับค่าน้ำในการพานักท่องเที่ยวมาซื้อสินค้า ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าที่ไกด์เถื่อนรายนี้ ไม่พอใจนักท่องเที่ยวที่ไม่ยอมซื้อสินค้า จึงทำให้ขาดไม่ได้ค่าน้ำ และขาดทุนค่าหัวที่ซื้อมาจากบริษัททัวร์นั่นเอง

หลังจากคลิปนี้ ถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียล ทำให้มัคคุเทศก์ชาวไทยส่วนใหญ่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพฤติกรรมของไกด์เถื่อนต่างชาติรายนี้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นอย่างมาก

ซึ่งก่อนหน้านี้ กลุ่มมัคคุเทศก์ชาวไทย ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา เพื่อให้เร่งปราบปรามไกด์เถื่อนต่างชาติ รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ลักลอบเข้ามาแย่งอาชีพสงวนของคนไทย แต่ผ่านมาได้เพียง 2 วัน ก็เกิดเหตุฉาวสะเทือนวงการท่องเที่ยวขึ้นมาเสียแล้ว จึงได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมการท่องเที่ยว และตำรวจท่องเที่ยว เร่งปราบปรามไกด์เถื่อนต่างชาติให้หมดไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยกลับคืนมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง