พ่อค้าซาลาเปา งง! อยู่ดี ๆ มีชื่อเป็นประธานบริษัท ต้องแบกหนี้ 2.5 ล้าน

พ่อค้าซาลาเปา งง! อยู่ดี ๆ มีชื่อเป็นประธานบริษัท ต้องแบกหนี้ 2.5 ล้าน

View icon 104
วันที่ 20 ก.ย. 2567 | 08.38 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
พ่อค้าซาลาเปา สุดช็อก! อยู่ดี ๆ ก็มีชื่อเป็นประธานบริษัท แถมต้องแบกรับภาระหนี้ 2.5 ล้านบาท สืบไปสืบมา ที่แท้น้องชายแสบเอาบัตรประชาชน-ปลอมลายเซ็น ไปกู้เงินตั้งบริษัทแล้วไม่ใช้หนี้ จนถูกธนาคารส่งจดหมายทวง

เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (19 ก.ย. 67) ทีมข่าวลงพื้นที่ไปพูดคุยกับนายชุมพล อินต๊ะปัญญา อายุ 60 ปีพ่อค้าขายซาลาเปา ในพื้นที่ ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง หลังจากจู่ ๆ มีจดหมายทวงหนี้ยอดเงิน 2 ล้านกว่าบาท จากธนาคารแห่งหนึ่ง

โดยนายชุมพล เล่าว่าปัจจุบันตนเองมีอาชีพเร่ขายซาลาเปา โดยใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างในการเดินทาง ขายเพียงลูกละ 5 บาท 10 บาท แต่จู่ ๆ เดือน ก.ค. 66 มีจดหมายจากธนาคารแห่งหนึ่งมาถึงบ้าน ระบุว่าเป็นหนี้ 2,559,041.16 บาท

ตอนแรกตนเองตกใจมาก คิดเพียงว่ามันเกิดเรื่องขึ้นได้อย่างไร จนสืบไปสืบมาก็รู้ความจริงว่า เรื่องที่เกิดขึ้น น้องชายแท้ ๆ ของตนเองได้มายืมบัตรประชาชนไปทำเรื่องซื้ออะไหล่รถ แต่สุดท้ายน้องชายได้เอาชื่อตนเอง ปลอมลายมือชื่อ ไปเปิดบริษัทแล้วไปทำเรื่องกู้เงิน แล้วไม่ใช้หนี้ธนาคาร จนทางธนาคารมาทวงหนี้กับตน

ตนได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับน้องชายไว้ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 67 ณ ปัจจุบันคดีก็ยังไม่คืบหน้า ทางธนาคารก็ยังทวงหนี้มาอยู่ นอกจากนี้ยังถูก DSI เรียกไปสอบปากคำ เพราะ DSI ตรวจพบความผิดปกติทางการเงินของบริษัทที่น้องชายเอาชื่อตนเองไปเปิด ซึ่งตนได้ไปพบ DSI มาแล้ว และบอกว่าตนเองมีอาชีพขายซาลาเปา ไม่ได้เปิดบริษัท ตอนนี้ DSI กำลังสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่

นายชุมพล กล่าวทิ้งท้ายว่า สงสัยการปล่อยสินเชื่อของธนาคารว่า ปล่อยให้กู้เงินไปได้อย่างไรยอดเงินเยอะขนาดนี้ จะไม่ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อมูลเลยหรือว่าชื่อคนกู้กับอาชีพที่ทำอยู่ตรงกันหรือเปล่า เพราะตนเองเชื่อว่า อาชีพขายซาลาเปาไม่มีทางกู้เงินได้ขนาดนี้แน่นอน

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนขอเพียงได้รับความเป็นธรรมว่าตนเองไม่ได้เป็นคนกู้เงิน ไม่ได้มีส่วนรู้เห็น ที่มีชื่อไปปรากฏเป็นประธานบริษัท จึงอยากขอวิงวอนให้ทางธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง