วันนี้ (21 ก.ย. 67) พลเรือตรี วีรุดม ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลกระทบให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง ซึ่งกองทัพเรือ โดย พลเรือเอก อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ จึงได้สั่งการให้หน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือในทุกพื้นที่ เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
รวมถึงทำการสำรวจพื้นที่และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนตัวของพายุดีเปรสชัน “ซูลิก” เข้าสู่ประเทศไทย โดยปัจจุบัน ได้เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย โดยมีศูนย์กลางอยู่บริเวณ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ซึ่งอาจจะทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบหลายแห่งของประเทศ โดยในขณะนี้กองทัพเรือโดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างทันท่วงที
สำหรับการดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนนั้น มีผลการปฏิบัติที่สำคัญในวันที่ 20 กันยายน 2567 ดังนี้
- พื้นที่จังหวัดเชียงราย หน่วยบรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อย ตามลำแม่น้ำโขงเขตเชียงรายได้ดำเนินการแจกจ่ายยารักษาโรคและถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ชุมชนเหมืองแดงใต้
สำหรับในส่วนของการฟื้นฟู
ชุดค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ ได้ร่วมกับ หน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ดำเนินการนำเครื่องจักรขุดโคลน ขยะ และพัฒนาเส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบ รวมถึงซ่อมแซมและฟื้นฟูบ้านพักอาศัยให้กับประชาชนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ประกอบด้วย พื้นที่เหมืองแดงใต้จำนวน 7 หลัง ดำเนินการแล้วเสร็จ 4 หลัง พื้นที่ชุมชนปิยะพรจำนวน 6 หลัง ดำเนินการแล้วเสร็จ 3 หลัง
พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในส่วนของจังหวัดนครพนม ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือ รักษาความสงบเรียบร้อยตามแม่น้ำโขงเขตนครพนม ได้จัดชุดเฝ้าระวังและสำรวจพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งในพื้นที่จังหวัดนครพนมและเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร อยู่ในความรับผิดชอบของสถานีเรือมุกดาหาร ซึ่งจากเหตุฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณสี่แยกไฟแดงที่สำคัญและตามเส้นทางคมนาคมบางพื้นที่ในเทศบาลเมืองมุกดาหาร
โดยได้เข้าทำการช่วยเหลือ กำจัดขยะมูลฝอยที่กีดขวางทางน้ำและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนที่สัญจรไปมา รวมถึงจัดชุดเฝ้าระวัง เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ รวมถึงจัดถุงยังชีพ กระสอบทราย เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่รับผิดชอบ
ขณะที่ทางจังหวัดเลย ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสถานีเรือเชียงคาน นรข. เขตหนองคาย ได้จัดกำลังพล ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ลงพื้นที่บ้านหาดเบี้ย ต.ปากชม อ.ปากชม จว.เลย ดำเนินการช่วยเหลือการทำความสะอาดดินโคลน และขนย้ายสิ่งของหลังระดับน้ำโขงลดลง พร้อมทั้งจัดถุงยังชีพ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย
ด้านจังหวัดหนองคาย ซึ่งยังคงได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอันเนื่องมาจากน้ำในแม่น้ำโขงไหลล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ชุดบรรเทาสาธารณภัยสถานีเรือ บึงกาฬได้จัดจัดถุงยังชีพ และกระสอบทราย เพื่อนำไปช่วยเหลือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยจะดำเนินการจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ทั้งนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ยังคงให้หน่วยงานของ กองทัพเรือ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ดำรงการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือจากหน่วยเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กองทัพเรือ พื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0931763774 พื้นที่หนองคาย โทร.042451075 พื้นที่นครพนม โทร.042541205 พื้นที่อุบลราชธานี โทร.045251578 และ ศูนย์ปฏิบัติการ ศรชล.ภาค3 (จ.สตูล) โทร.1465 หรือที่ สายด่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ 1696 ตลอด 24 ชั่วโมง