หนุ่มวัย 29 ปี หลอนยาแอบหลังเสาไฟฟ้าปาอิฐ-ก้อนหินใส่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่สัญจรผ่านไปมากลางดึก โดยมีผู้เสียหาย 3 คน
วันนี้ (23 ก.ย. 67) พ.ต.อ.ปกรณ์ ภาวิไล ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ เผยว่า เมื่อวันที่ 20-22 กันยายนที่ผ่านมา เกิดเหตุปาหินใส่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่สัญจรผ่านไป-มา บริเวณถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-ศรีวิไล บริเวณบ้านโนนสมบูรณ์ ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ จึงสั่งให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ เดินทางไปตรวจสอบจนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 1 คน
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากอู่ซ่อมรถที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ พบว่า ช่วงเวลาประมาณ 01.00 – 02.00 น. วันศุกร์ (20 ก.ย. 67) ที่ผ่านมา มีรถยนต์กระบะ มีนายอานนท์ อายุ 25 ปี เป็นคนขับรถ โดยขับมาจากตัวเมืองบึงกาฬ มุ่งหน้าไปทางอำเภอศรีวิไล ขณะที่ผ่านหน้าร้านซ่อมรถก็ได้ยินเสียงดังตุ๊บ 1 ครั้ง และรถก็วิ่งผ่านไป และต่อมาคนขับได้หยุดรถจอดข้างทางห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ลงมาตรวจสอบก็พบว่าบริเวณกระจกหน้าด้านซ้ายฝั่งผู้โดยสารแตก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ และไปแจ้งความที่ สภ.เมืองบึงกาฬ ช่วงเช้าวันเสาร์ (21 ก.ย. 67) ที่ผ่านมา
ต่อมาช่วงเที่ยงของวันเสาร์ (21 ก.ย. 67) ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายอีกคนเข้ามาแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองบึงกาฬ ว่า ในคืนวันเดียวกันนั้นเวลาประมาณ 02.00 น. น.ส.เกตุวลี ได้ขับรถเก๋ง มาจากตัวเมืองบึงกาฬมุ่งหน้าสู่อำเภอศรีวิไล เมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีวัตถุคล้ายก้อนหินขว้างมาใส่รถทำให้รถเสียหาย แต่ไม่กล้าจอดรถตอนกลางคืน จึงเข้ามาแจ้งความพร้อมคลิปหน้ารถมาให้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ ยังมีคนขี่รถจักรยานยนต์อีก 1 คน ที่ถูกปาหินใส่เหมือนกัน โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายตั้ม อายุ 29 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุมีพฤติกรรมชอบโยนสิ่งของใส่รถที่สัญจรผ่านหน้าบ้านของตน และมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อนายตั้มเห็นตำรวจก็มีท่าทีตกใจ ซึ่งทางนายตั้มยอมรับว่า ตนก่อเหตุจริงพร้อมพาไปดูเศษอิฐ 2 ก้อน ที่ปาใส่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ขับผ่านหน้าบ้านตัวเอง และรับว่าเสพยาบ้า 2 เม็ด ก่อนที่จะก่อเหตุปาก้อนอิฐใส่รถยนต์ดังกล่าว โดยยนายตั้มได้ยืนถือก้อนอิฐหลบอยู่ข้างเสาไฟฟ้า โดยมีต้นแคบังไว้อีกชั้น ทำให้คนขับรถผ่านไปมามองไม่เห็น เมื่อรถผ่านมาก็จะโยนหินใส่ ทั้งนี้นายตั้มบอกว่าตัวเองไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไปทำไม แต่ตัวเองได้เสพยาบ้าก่อน โดยเสพมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.2 เม็ดละ 350 บาท ตอนนี้ราคาเม็ดละ 50 บาท และสารภาพอีกทีว่าตัวเองมีอาการหลอน และเคยประสบอุบัติเหตุบริเวณที่ก่อเหตุ แต่ไม่มีใครมาช่วยตนเลยฝังใจก่อเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย, ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ และ พยายามฆ่า จึงนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดบึงกาฬต่อไป
