น้ำทะลักท่วมตัวเมือง “เชียงใหม่” เคราะห์ซ้ำไฟไหม้ร้านค้าใกล้กาดหลวงกลางดึก ส่วน “สุโขทัย” ชาว อ.ศรีสำโรง หนีน้ำโกลาหล หลังพนังกั้นน้ำแตก
เกิดโกลาหลตลอดช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา (24ก.ย.67) หลังจากชาวบ้านรู้ว่าพนังกั้นแม่น้ำยมฝั่งซ้าย แตกทะลักท่วมพื้นที่บริเวณวัดศรีสังวร โรงเรียนวัดศรีสังวร และหมู่บ้านท่างช้าง ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย บางจุดระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 100 ครอบครัว ต้องนำพาหนะทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งหอบข้าวของหนีน้ำไปอยู่ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย
ขณะที่ พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ เจ้าอาวาสวัดพลายชุมพล เปิดโรงครัวทำอาหารไปแจกผู้ประสบภัย หลังรู้ว่าชาวบ้านบางคนยังไม่ได้กินข้าว ต้องหนีน้ำออกจากบ้านมาก่อน สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ อ.ศรีสำโรง คาดการณ์ว่าระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากรับน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดแพร่ ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง
อีกจังหวัดที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตลอดคืนที่ผ่านมาระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ และชาวบ้านจิตอาสา เร่งช่วยกันบรรจุกระสอบทราย ท่ามกลางฝนตกปรอยๆ เพื่อนำไปวางเป็นแนวป้องกันตามจุดล่อแหลม โดยช่วง 5 ทุ่ม ที่จุดวัดระดับน้ำ P1 เชิงสะพานนวรัฐ ระดับน้ำเพิ่มสูง 4.21 เมตร (เพิม่ขึ้นจากช่วง 4 ทุ่ม 8 เซนติเมตร) เลยจุดวิกฤติอยู่ที่ 3.70 เมตร
ที่สุดอั้นไม่ไหว แม่น้ำปิงเริ่มล้นตลิ่งท่วมตัวเมืองเชียงใหม่แล้ว โดยจุดแรกบริเวณชุมชนป่าพร้าวนอก มวลน้ำทะลักท่วมร้านอาหารริมน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ก่อนหลากท่วมถนนทางลอดป่าแดด เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจร ไม่สามารถใช้ทางลอดได้แล้ว และเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณดังกล่าวยกของขึ้นที่สูง ทั้งนี้โซนต้องเฝ้าระวัง เป็นอันดับแรกพื้นที่ บ้านป่าพร้าวนอก ร้านอาหารท่าน้ำ สำนักงานป่าไม้เชียงใหม่ โรงเรียนมงฟอร์ตประถม โรงเรียนพระหฤทัยฯ โรงเรียนเรยีนาฯ วัดชัยมงคล หมู่บ้านเวียงทอง บ้านเด่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ (บ้านเด่น) หมู่บ้านจินดานิเวศน์
ขณะเดียวกัน ช่วงกลางดึกเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณด้านหลังของร้านเชียงใหม่ชัยดี ตั้งอยู่เลขที่ 90 ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ใกล้กาดหลวงตลาดของฝากชื่อดัง โดยเป็นร้านจำหน่ายพลาสติก ผ้าไหม นุ่นหมอน และไหมพรม ก่อนเพลิงจะลุกลามไปยังร้านค้าใกล้เคียง ตั้งอยู่เลขที่ 87 - 89 เพลิงได้โหมไหม้อย่างรุนแรง ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังคูหาข้างเคียง เนื่องจากมีลักษณะเป็นไม้ และยังเป็นคูหาที่อยู่ติดกันเป็นแถวยาว จึงจำเป็นต้องเร่งระงับเหตุโดยด่วน ซึ่งใช้เวลาในการควบคุมเพลิงนานกว่า 3 ชั่วโมง จึงระงับเหตุทั้งหมดได้
