ห้องข่าวภาคเที่ยง - คุณผู้ชมจำข่าวนี้ได้ไหม ที่มีหนุ่มชาวจีนไปร้องกับ "ทนายตั้ม" ว่าเจออดีตภรรยาคบชู้ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่หย่าร้างกัน ไป ๆ มา ๆ เรื่องนี้พัวพันใหญ่โตไปถึง "รองอธิบดีอัยการ" คนหนึ่ง ที่วันนี้ผู้เสียหายไปร้องขอความเป็นธรรม และขอให้ลงโทษหากพบว่าผิดจริง
หนึ่งในหลักฐานสำคัญก็คือ รถยนต์ราคาแพงคันนี้ ซึ่งแรก ๆ "นายเคน" หนุ่มชาวจีน เข้าใจว่าเป็นรถที่ผู้ชายคนรักใหม่ซื้อให้อดีตภรรยาของเขาไปใช้ แต่จากการไล่ตรวจสอบข้อมูล และเชิญพยานคนหนึ่งมาซักถามข้อเท็จจริง
กลับได้ข้อสรุปที่บ่งชี้ว่าที่จริงแล้ว กลับมีอีก 1 ตัวละคร เป็น "รองอธิบดีอัยการ" ที่เข้ามามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอดีตภรรยาของ นายเคน มีภาพสวีตหวาน ไปเที่ยว ไปทำบุญ และข้อมูลที่เชื่อได้ว่าเป็นคนวางแผนให้หย่าร้างด้วย
หลังมีการปรึกษากันแล้ว "นายเคน" จึงตัดสินใจเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากพบว่ามีมูล หรือมีพฤติกรรมดังกล่าวจริง ก็ขอให้สั่งลงโทษทางวินัยร้ายแรงด้วย
ด้าน นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า จะนำเรื่องเสนออัยการสูงสุด และคณะกรรมการอัยการ เพื่อดำเนินการสอบสวนต่อไป
ขณะที่ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยอมรับว่า "รองอธิบดีอัยการ" คนที่ร้องเรียน เป็นคนเดียวกับที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีเรียกรับสินบนชาวจีน 5 แสนบาท แลกกับการไม่สั่งคดีพาสปอร์ตปลอม และคดีนี้เพิ่งได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินคดีข้อหาเรียกรับผลประโยชน์ อยู่ระหว่างรออัยการสูงสุดพิจารณา
ส่วนที่หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมอัยการคนนี้ถึงไม่ถูกสั่งพักราชการ ก็เพราะว่าตอนนี้เรื่องยังในขั้นตอนการสอบสวนข้อเท็จจริงชั้นต้น จะสั่งพักราชการได้ก็ต่อเมื่อถูกส่งฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ หรือถูกสอบวินัยร้ายแรงแล้ว ถึงจะถูกสั่งพักราชการได้
