น้องเนย เด็ก 14 ปี กลับสู่อ้อมอกแม่แล้ว เปิดใจหนีไปเพราะคึกคะนอง อยากลองใช้ชีวิต สุดท้ายถูกใช้ซักผ้า ทำนู่นนี่ จนอยากกลับบ้าน ด้านฝ่ายชาย ยันพยายามให้น้องกลับบ้านแล้ว
25 ก.ย. 67 ที่สภ.บางบัวทองน.ส.บี (นามสมมุติ) พร้อมกับน้องเนย ลูกสาววัย 14 ปี เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนสภ.บางบัวทอง หลังจากที่ครอบครัวได้ไปรับน้องเนย และวัยรุ่นชายอีก 2 คน จากบริษัทรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่งย่านศรีนครินทร์ จ.สมุทรปราการ เพื่อกลับบ้าน หลังได้รับแจ้งจากทางบริษัทว่าทั้ง 3 คนได้ไปสมัครงาน และทางบริษัทเห็นข่าว จำได้ ว่าเป็นน้อง ๆ ที่ครอบครัวตามหา
แม่ของน้องเนย ผู้เสียหาย เปิดใจกับทีมข่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่เจอลูกสาวหลังจากหายออกจากบ้านไปนาน 7 วันตอนเจอลูกถึงกับวิ่งไปกอด ไม่ได้ดุด่าอะไรน้อง เพราะรู้สึกเป็นห่วงและคิดถึงมากกว่า
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้พาน้องไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และเดินทางมาให้ปากคำกับอีกครั้งที่สถานีตำรวจ
แม่น้องเนย กล่าวต่ออีกว่า จากการพูดคุยกับน้องเนย น้องปลอดภัยดี ไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่หนีไปก็เป็นความคะนองของเด็ก แต่ช่วงหลัง ๆ น้องเพยายามขอฝ่ายชายกลับบ้าน แต่ถูกฝ่ายชายบังคับไม่ให้กลับ ส่วนโทรศัพท์มือถือ ฝ่ายชายก็นำไปขาย
ถึงอย่างไร แม่ก็จะดำเนินคดีกับฝ่ายชายให้ถึงที่สุด แต่ไม่ได้โกรธเกลียดฝ่ายชายขนาดนั้น เพราะต้องยอมรับว่าลูกสาวเราผิดที่ออกไปกับเขา และตอนนี้ลูกก็ได้เรียนรู้แล้วว่าการออกไปเผชิญโลกภายนอก โดยที่ไม่มีพ่อมีแม่เป็นอย่างไร
ด้านน้องเนย เปิดใจกับทีมข่าว ว่า ที่หนีออกจากบ้าน เพราะอยากลองใช้ชีวิตของตัวเอง พอได้คุยกับฝ่ายชาย จึงอุ่นใจที่จะออกไปใช้ชีวิตด้วยกัน แต่พอออกไปได้ 2-3 วัน เริ่มไม่ค่อยสนุก ไม่มีความสุขเลย เพราะถูกฝ่ายชายใช้ให้ซักผ้า ใช้ให้ทำนู่นนี่เหมือนทาสรับใช้ โทรศัพท์ก็ถูกนำไปขาย หากจะเล่นโซเชียลก็ต้องเล่นผ่านโทรศัพท์ฝ่ายชาย และมีเวลากำหนดให้เล่นได้เป็นชั่วโมง ตนเองขอฝ่ายชายกลับบ้าน แต่ก็ถูกขู่ทำร้ายร่างกาย จึงหนีออกมาไม่ได้
ด้านนายแก๊บ ฝ่ายชายที่น้องเนยไปอยู่ด้วย อายุ 20 ปี บอกว่า คุยกับน้องผ่านโซเชียลประมาณ 1 เดือน เมื่อวันที่ 18 ก.ย. น้องทักมาบอกว่าอยากมาหาตนที่บ้าน ตนก็ให้มา จากนั้นช่วงเย็นก้ได้พาน้องไปส่งขึ้นรถกลับบ้าน แต่ระหว่างทาง น้องทักมาหาว่าไม่อยากกลับบ้าน เพราะ ทะเลาะกับพ่อแม่ ตนก็ตามใจ พากลับมาอยู่ที่บ้านของน้องนาย เด็กอายุ 16 ปี พอตอนเช้า น้องเนยบอกจะกลับบ้าน ก็มาเปลี่ยนใจทีหลัง บอกว่าไม่กลับ อยู่กับพี่แล้วสบายใจ
ฝ่ายชาย บอกอีกว่า ตนรู้อยู่แล้วว่าหากเป็นแบบนี้คนที่ถูกดำเนินคดีก็จะเป็นตน ต่อให้ตนจะให้การแบบไหนก็ตาม จึงพยายามไล่ให้น้องเนยกลับบ้านแต่น้องไม่ยอมกลับ ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร หลังจากนั้นน้องนายก็ทะเลาะกับแม่และถูกไล่ออกจากบ้าน พวกตนจึงคิดว่าจะออกไปใช้ชีวิตกัน จึงไปเช่าห้องพักที่ท่าน้ำนนท์ ระหว่างนั้นก็หางานทำ จนพากันไปสมัครงานที่ศรีนครินทร์กัน และโดนจับได้
ส่วนโทรศัพท์ ยอมรับว่าเอาไปขายจริง น้องเนยให้เอาไปจาย เพราะอยากช่วยค่าใช้จ่าย ยืนยันไม่ได้บังคับขู่เข็ญ ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย ยังรักและห่วงใย แต่เชื่อว่าครอบครัวของน้องเนย คงจะไม่ให้อภัยตนอย่างแน่นอน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้เสียหายฝั่งน้องผู้หญิงไปตรวจร่างกาย และรอผลยืนยันอีกประมาณ 15 วัน แล้ววันนี้ได้เรียกมาสอบปากคำกับพนักงานสอบสวน ส่วนนายแก๊ป อายุ 20 ปี เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติดอยู่ในร่างกายจึงได้ควบคุมตัวไว้ในห้องขัง และแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ และข้อหาพรากผู้เยาว์ อายุต่ำกว่า 15 ปี ไปจากบิดามารดา ส่วนข้อหาอื่นๆ อย่างคงต้องรอการสอบปากคำและรอการพิสูจน์ต่อไป ส่วนน้องผู้ชาย อายุ 16 ปี อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่เรียกมาสอบปากคำ