เลิกราไม่เลิกรัก! หนุ่มโหดจับแฟนเก่าล่ามโซ่ขังในห้องนาน 4 วัน แถมยังข่มขืนและกล้อนผมจนเสียโฉม หลังจากหนีออกมาได้ก็ยังส่งข้อความขู่ฆ่าไม่หยุด
วันนี้ (26 ก.ย.67) ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้พา น.ส.แอม อายุ 31 ปี ผู้เสียหายเข้าติดตามความคืบหน้า กรณีแจ้งความแล้ว ที่ สน.ปทุมวัน หลังวันที่ 16 ก.ย.67 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายโดนแฟนเก่า อายุ 28 ปี หรือผู้ก่อเหตุ นัดไปหาอ้างว่าขอเคลียร์ปัญหาเก่าๆ ที่เคยทำให้ช้ำใจ
แต่พอไปถึงผู้ก่อเหตุได้ยึดโทรศัพท์และพาสปอร์ตของผู้เสียหายไว้ จากนั้นจับผู้เสียหายล่ามโซ่และขังไว้ในห้องพักที่อะพาร์ตเมนต์นานกว่า 4 วัน มีการข่มขืน กล้อนผม และใช้มีดขู่ฆ่าผู้เสียหายด้วย บอกว่ามีทางเดียวที่จะรอดคือกระโดดออกจากหน้าต่างชั้น 3 เท่านั้น โดยแต่ละวันแม่ของผู้ก่อเหตุ จะเอาข้าว เอาน้ำมาให้ผู้เสียหายกิน แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เนื่องจากกลัวว่าจะโดนผู้ก่อเหตุทำร้ายเช่นกัน
ส่วนสาเหตุที่ผู้เสียหายรอดออกมาได้ เป็นเพราะตะโกนร้องให้คนในอะพาร์ตเมนต์ช่วยพาหนี ในวันที่ผู้ก่อเหตุไม่อยู่ห้อง แต่หลังจากหนีออกมาได้แล้ว ผู้ก่อเหตุก็ยังราวีไม่เลิก ส่งข้อความว่าข่มขู่ว่าจะตัดมือตัดเท้า ตอนนี้ผู้เสียหายใช้ชีวิตลำบาก ระแวงมาก กลัวผู้ก่อเหตุมาเจอแล้วสาดน้ำกรดใส่
ผู้เสียหายเล่าอีกว่าก่อนหน้านี้พักอาศัยอยู่บ้านใกล้ผู้ก่อเหตุ จึงลองคบหาดูใจกันเป็นเวลา 2 ปี แรกๆ คบกันทุกอย่างก็ดูราบรื่น แต่นานวันเข้าก็เริ่มมีปัญหาจากแค่มีปากเสียง ก็เริ่มลงไม้ลงมือ ที่ผ่านมาทราบดีว่าผู้ก่อเหตุยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเวลาที่มีอาการหลอนก็จะอารมณ์แปรปรวน ทุบตีเธอจนบอบช้ำไปทั้งกายใจ เธอทนไม่ไหวจึงขอเลิกลา
จากนั้นเธอไปทำงานต่างประเทศนานหลายเดือน พอกลับมาที่ประเทศไทยก็มาเจอผู้ก่อเหตุ ยังไม่ทันได้กลับบ้านไปเจอครอบครัวของตัวเองเลย แต่ ล่าสุด ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้พาผู้เสียหายกลับถึงบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้านคดีความ ตำรวจเผยความคืบหน้าว่า อยู่ระหว่างการสอบสวน และสอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งตอนนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว หากหลักฐานครบ จะออกหมายเรียกมาสอบปากคำต่อไป
