สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดเชียงราย พะเยา และน่าน

View icon 111
วันที่ 26 ก.ย. 2567 | 20.09 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
ที่หอประชุมที่ว่าการอําเภอเทิง จังหวัดเชียงราย สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โปรดให้ นายบัญชา เตชะสกุล รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ เชิญสิ่งของพระราชทาน 1,300 ชุด ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

จังหวัดเชียงราย ประสบเหตุอุทกภัยระหว่างวันที่ 20-31 สิงหาคม 2567 มีฝนตกหนัก เกิดน้ำป่าไหลหลากเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 17 อําเภอ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน กว่า 13,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบกว่า 55,000 ไร่ นอกจากนี้ ด้านปศุสัตว์, ประมง และสิ่งสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ จังหวัดเชียงราย ได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนดําเนินการช่วยเหลือ และเยียวยาเป็นการเร่งด่วนแล้ว ปัจจุบันอยู่ในช่วงฟื้นฟู รวมถึงระดับน้ำเข้าสู่ภาวะปกติ

จากนั้น โปรดให้ นายบัญชา เตชะสกุล รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ เชิญสิ่งของพระราชทาน 1,000 ชุด ไปมอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดพะเยา ณ ที่ว่าการอำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

จังหวัดพะเยา ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ในห้วงเดือนกันยายน 2567 มีน้ำป่าไหลหลาก เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 9 อำเภอ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 13,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 65,000 ไร่ รวมถึงด้านประมง และปศุสัตว์ ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยอยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติม ปัจจุบันเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว อยู่ในระหว่างการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และฟื้นฟูในด้านต่าง ๆ ตามระเบียบทางราชการ

ส่วนที่จังหวัดน่าน โปรดให้ นายนิวัฒน์ งามธุระ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เชิญสิ่งของพระราชทาน 500 ชุด และกระเป๋ายาสามัญประจำบ้าน 300 ชุด ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ณ ที่ว่าการอำเภอท่าวังผา

สำหรับจังหวัดน่าน ได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมกําลังปานกลางพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประกอบกับร่องมรสุมกําลังปานกลาง จะเลื่อนลงมาพาพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทําให้มีฝนตกเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ เมื่อวันที่ 20-23 สิงหาคม 2567 จึงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่ 14 อําเภอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 32,000 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 20,000 ไร่ ขณะนี้อยู่ในระยะของการช่วยเหลือฟื้นฟู เพื่อให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

ข่าวอื่นในหมวด