หญิงเร่ร่อนร้องไห้ฟูมฟายไม่ยอมให้ตำรวจจับง่ายๆ หลังไปก่อเหตุขโมยเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทมาจากยายพิการนั่งวีลแชร์
เมื่อเวลา 13.50 น วันที่ 27 กันยายน 2567 ร.ต.อ.ปัญญา แก้วมุสิก รอง สว.ป.สภ.เมืองพัทลุง พร้อมกำลังเข้าคุมตัวหญิงเร่ร่อนวัย 45 ปี หลังขโมยเงินของนางพิว อายุ 71 ปี ซึ่งป่วยพิการด้วยโรคมะเร็ง ต้องนั่งรถวีลแชร์ช่วยเหลือตัวเอง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งในชุมชนบ้านแร่ ถนนอภัยบริรักษ์ ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง
นางพิว ผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงจังหวะเกิดเหตุ ตนอาศัยอยู่บ้านเพียงคนเดียว ส่วนบุตรสาวไปรับยาให้ที่โรงพยาบาล และตนก็ได้นั่งรถวีลแชร์ออกมาหน้าบ้านเพื่อที่จะอาบน้ำ โดยบ้านอยู่ติดริมถนน จู่ๆ ผู้ก่อเหตุก็เดินเข้าไปภายในบ้าน ก่อนจะเข้ารื้อค้นบริเวณเตียงนอน ตนหันมาเห็นช่วงจังหวะที่ผู้ก่อเหตุเข้าไปยืนอยู่ภายในบ้านแล้ว จึงตะโกนถามว่าเข้าไปทำไม ผู้ก่อเหตุอ้างว่ามาตามหาสามี ก่อนจะรีบเดินออกจากบ้านไป
เมื่อไปตรวจสอบถุงใส่เงินที่ยัดไว้ใต้หมอนบนเตียงนอน ปรากฏว่าเงินได้หายไป โดยเงินดังกล่าวเป็นเงินดิจิทัล ที่ทางรัฐบาล ได้แจกจ่ายให้กับผู้ป่วยพิการ ซึ่งตนเองได้ไปกดมาจากธนาคาร เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ก่อนจะใช้จ่ายซื้อกับข้าวภายในบ้านเงินเหลือ 7,500 บาท จึงนำใส่ถุงเงินและวางไว้ใต้หมอนที่นอน กระทั่งผู้ก่อเหตุมาขโมยไป จึงแจ้งรูปพรรณสัณฐานลักษณะผู้ก่อเหตุให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบ
หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง ได้เข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ขณะเดินอยู่ริมถนน จึงเข้าตรวจค้นและตรวจสอบเบื้องต้น ภายในตัวพบเงินสดจำนวน 7,300 บาท จึงทำการตรวจยึด และควบคุมตัว ไปสถานีตำรวจ ซึ่งผู้ก่อเหตุร้องไห้ฟูมฟายพูดจาด่าทอเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้จับง่ายๆ
และจากการตรวจเช็กข้อมูลพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นหญิงเร่ร่อนไม่มีที่อยู่อาศัย นอนตามสวนสาธารณะ ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวพร้อมทั้งทำประวัติบันทึกไว้ ก่อนจะติดต่อ พมจ.จังหวัดพัทลุง เพื่อช่วยเหลือต่อไป