ศาลยกฟ้อง “โดโด้-ยุทธพิชัย” คดีฉ้อโกงประชาชน รับเป็นพรีเซนเตอร์อาหารเสริม

ศาลยกฟ้อง “โดโด้-ยุทธพิชัย” คดีฉ้อโกงประชาชน รับเป็นพรีเซนเตอร์อาหารเสริม

View icon 49
วันที่ 27 ก.ย. 2567 | 17.46 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ศาลยกฟ้อง “โดโด้-ยุทธพิชัย” ร่วมบริษัทขายตรงทำธุรกิจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน หลังรับเป็นพรีเซนเตอร์อาหารเสริม ชี้ พยานหลักฐานยังมีข้อพิรุธสงสัย จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย

วันนี้ (27 ก.ย.67) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำ อ.2144/2566 ที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บจก.การะเกด เวิลด์แพลน โดยน.ส.กุลสิญา ถมยาปริวัฒน์ ผู้มีอำนาจ, นายยุทธพิชัย ชาญเลขา หรือโดโด้ ดารานักแสดง และพวก เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตาม พ.ร.ก.ว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มูลค่าความเสียหายประมาณ 6,000,000 บาท

โดยนายยุทธพิชัย กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษาว่า ศาลพิพากษายกฟ้องตนเอง ซึ่งเป็นจำเลยที่ 5 ทุกข้อหา เพราะว่าตนเองเป็นเพียงแบรนด์แอมบาสเดอร์ และพรีเซ็นเตอร์ บางครั้งก็ขึ้นเวทีเป็นพิธีกรดำเนินรายการให้บริษัทผู้ว่าจ้าง แต่ก็ถูกดำเนินคดีด้วยอาจเป็นเพราะเข้าไปเกี่ยวข้อง ในฐานะที่เป็นภาพลักษณ์ของบริษัท

จึงฝากถึงดารานักแสดงหลาย ๆ ท่าน เวลาไปร่วมงานกับบริษัทใดก็ขอให้พิจารณาให้ละเอียดรอบคอบ ทั้งนี้ เข้าใจว่าดารานักแสดงเป็นเพียงแบรนด์แอมบาสเดอร์ เราไม่มีสิทธิรับรู้หรอกว่าบริษัทเขาทำธุรกิจอะไรจริง ๆ แค่ไหน ถ้าเขาไปทำอะไรนอกเหนือจากที่บอกกับเราไว้ แล้วบังเอิญเราไปรับประกันสินค้าหรือบริษัท ก็จะถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องหรือทำให้ต้องมาวุ่นวายแบบตนเอง

นายยุทธพิชัย กล่าวว่า ขอบคุณผู้พิพากษาศาลอาญาที่ให้ตนเองได้พิสูจน์ความจริงว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับบริษัทดังกล่าว เป็นแค่ผู้รับจ้างทำหน้าที่แบรนด์แอมบาสเดอร์ มีสัญญาจ้าง 1 แสนบาทเท่านั้น และตนเองก็เป็นผู้เสียหายด้วย สำหรับคดีนี้ผู้เสียหายเกือบ 30 คน ตอนแรกก็แจ้งความดำเนินคดีบริษัท แต่คดีไม่คืบหน้า สุดท้ายก็ดำเนินคดีตนเองด้วย ทำให้เป็นกระแสข่าวดังขึ้นมา และคดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด ตนก็รำคาญใจ ทุกข์ใจว่าทำไมเราต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และช่วงที่มีการพิจารณาคดีก็วุ่นวายมาก แต่โชคดีที่ได้ทนายความและน้อง ๆ จากคณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่มาด้วยตรวจดูเอกสาร เพื่อใช้พิสูจน์ความจริงในการสืบพยานของศาล ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ในกระบวนการยุติธรรม ส่วนจะอุทธรณ์คดีหรือไม่ก็อยู่ที่พนักงานอัยการ แต่ก็พร้อมพิสูจน์ความจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ศาลพิพากษาลงโทษ จำเลยที่ 1-4 ว่ากระทำความผิดตามพ.ร.ก.ว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ลงโทษปรับจำเลยที่ 1,2 ในความผิดตาม พ.ร.ก.ว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน รายละ 5 แสนบาท และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ปรับ จำเลยที่ 1,2 รายละ 5 หมื่นบาท

ส่วนจำเลยที่ 3,4 กระทำผิดลงโทษจำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 30 กระทง จำคุก 150 ปี แต่ตามกฎหมายลงโทษจำคุก 20 ปี  สำหรับนายยุทธพิชัย หรือโดโด้ จำเลยที่ 5 พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานยังมีข้อพิรุธสงสัยตามสมควร จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง