ตำรวจกองปราบบุกจับ 2 เสี่ยกำมะลอ หลอกเด็กเอ็นฯร่วมลงทุน สูญเงินเกือบ 2 แสนบาท

ตำรวจกองปราบบุกจับ 2 เสี่ยกำมะลอ หลอกเด็กเอ็นฯร่วมลงทุน สูญเงินเกือบ 2 แสนบาท

View icon 95
วันที่ 30 ก.ย. 2567 | 14.20 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (30 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแขไตร สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่กองปราบปราม แสดงหมายศาลเข้าจับกุม นายสาริน หรือ นัด อายุ 27 ปี ชาว อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 688/2567 ลงวันที่ 27 ก.ย. 67 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง

นอกจากนี้ยังได้ ควบคุมตัว นายตั้ม อายุ 44 ปี ชาว จ.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 676/2567 ลงวันที่ 24 ก.ย. 67 ในข้อหาเดียวกัน ภายหลังทำการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในบ้านพักในพื้นที่ จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น

ต่อมา พ.ต.อ.ศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเป็นหญิง 2 คน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ว่ารู้จักชาย 2 คน ทราบชื่อว่าตั้มและนัด มาติดต่อว่าต้องการเด็กเอนเตอร์เทน จนมีการพูดคุยและเกิดความไว้วางใจ แต่ถูกชาย 2 คน ใช้อุบายหลอกว่าจะให้ทุนไปประกอบธุรกิจ ซึ่งต้องได้รหัส OTP ก่อน จึงจะโอนเงินให้ ด้วยความเชื่อใจจึงให้รหัส OTP ไป แต่สุดท้ายชาย 2 คนไม่ให้เงินลงทุน แต่เป็นการหลอก ได้เงินรวมทั้งสิ้น 189,700 บาท ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่า มาแจ้งความเพราะต้องการให้ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมชายทั้ง 2 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

หลังรับแจ้งความ พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอนุมัติออกหมายจับชายทั้ง 2 คนในข้อหาดังกล่าว ซึ่งเมื่อหมายจับออกมา จึงส่งหมายจับประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจับกุมตัวทั้ง 2 คนมาดำเนินคดีตามกฎหมาย กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามสามารถติดตามจับกุมชาย 2 คนได้ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.นครปฐม และอยู่ระหว่างการส่งตัวมาที่ สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งทราบจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่า ในเบื้องต้น นายสาริน รับสารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยมีนายตั้มจ้างให้เปิดบัญชี แล้วก็คอยกดเงินที่เหยื่อโอนมาให้ โดยจะจ่ายค่าจ้างให้ครั้งละ 500-1,000 บาท เมื่อตรวจสอบบัญชีของนายตั้ม ก็พบว่ามีเงินเข้าออกบัญชีวันละ 10,000-20,000 บาท และยังพบว่ามีการหมุนเวียนบัญชีเป็นเงินหลายล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อรับตัวแล้วก็จะทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนจะได้ส่งฟ้องฝากขังที่ศาลตามขั้นตอนต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง