ห้องข่าวภาคเที่ยง - แม้ว่าเมื่อวานเราจะได้เปิดใจคุยกับน้องชายของ "มิ้นต์ ชาลิดา" นักแสดงสาว ที่เจ้าตัวยืนยันว่า จะไม่ไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีชาวต่างชาติ คดีที่ถูกอีกฝ่ายทำร้ายร่างกาย แต่ก็ยังต้องรอดูเที่ยงวันนี้ ว่านาทีสุดท้ายเจ้าตัวจะเปลี่ยนใจหรือไม่
เมื่อวานนี้เราได้เปิดใจสอบถามกับ "มอส ราชัย" น้องชายของ "มิ้นต์ ชาลิดา" นักแสดงสาว ถึงเหตุการณ์ที่ถูกชายชาวรัสเซีย มีท่าทีเมาสุราจะเข้าไปหาเรื่องลูกค้า จึงเข้าไปห้ามปราม แล้วคงทำให้อีกฝ่ายที่อยู่ในอาการเมาสุราไม่พอใจ เลยกลายเป็นคนที่ต้องถูกทำร้ายเสียเอง
เมื่อวานเจ้าตัวบอกกับเรา ยืนยันว่าจะไม่ไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี เพราะอยากให้อีกฝ่ายได้รับโทษในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป แม้จะเป็นเหตุผลจากการเมาสุราก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครควรจะถูกทำร้ายร่างกาย
ทีมข่าวโทรสอบถามไป ล่าสุดเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา เจ้าตัวก็ยังยืนยันคำเดิม ว่าจะไม่ไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี แต่ยังต้องไปที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อเซ็นเอกสารทางคดี ตามที่ตำรวจนัดหมาย
ซึ่งตามกำหนดนัดของตำรวจ เที่ยงวันนี้จะเรียกทั้งสองฝ่ายมาพบ แต่แยกไม่ให้เจอกัน พูดง่าย ๆ จะแยกพาชายชาวรัสเซีย ผู้ก่อเหตุ ไปแจ้งข้อกล่าวหา "ทำร้ายผู้อื่น เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือ จิตใจ" ซึ่งโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ หากเจ้าตัวให้การรับสารภาพ ก็จะพาตัวไปดำเนินคดีที่ศาลฯ ทันที แล้วหลังจากนั้นก็จะประสานส่งข้อมูลประวัติการก่อเหตุ ไปให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ลงบันทึกไว้ด้วยว่าได้เข้ามาก่อเหตุอะไรไว้ในไทย เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาว่าหากชายคนนี้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว ควรจะอนุญาตให้กลับเข้ามาในไทยได้อีกหรือไม่
เมื่อวานนี้เราได้เปิดใจสอบถามกับ "มอส ราชัย" น้องชายของ "มิ้นต์ ชาลิดา" นักแสดงสาว ถึงเหตุการณ์ที่ถูกชายชาวรัสเซีย มีท่าทีเมาสุราจะเข้าไปหาเรื่องลูกค้า จึงเข้าไปห้ามปราม แล้วคงทำให้อีกฝ่ายที่อยู่ในอาการเมาสุราไม่พอใจ เลยกลายเป็นคนที่ต้องถูกทำร้ายเสียเอง
เมื่อวานเจ้าตัวบอกกับเรา ยืนยันว่าจะไม่ไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี เพราะอยากให้อีกฝ่ายได้รับโทษในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป แม้จะเป็นเหตุผลจากการเมาสุราก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครควรจะถูกทำร้ายร่างกาย
ทีมข่าวโทรสอบถามไป ล่าสุดเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา เจ้าตัวก็ยังยืนยันคำเดิม ว่าจะไม่ไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี แต่ยังต้องไปที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อเซ็นเอกสารทางคดี ตามที่ตำรวจนัดหมาย
ซึ่งตามกำหนดนัดของตำรวจ เที่ยงวันนี้จะเรียกทั้งสองฝ่ายมาพบ แต่แยกไม่ให้เจอกัน พูดง่าย ๆ จะแยกพาชายชาวรัสเซีย ผู้ก่อเหตุ ไปแจ้งข้อกล่าวหา "ทำร้ายผู้อื่น เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือ จิตใจ" ซึ่งโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ หากเจ้าตัวให้การรับสารภาพ ก็จะพาตัวไปดำเนินคดีที่ศาลฯ ทันที แล้วหลังจากนั้นก็จะประสานส่งข้อมูลประวัติการก่อเหตุ ไปให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ลงบันทึกไว้ด้วยว่าได้เข้ามาก่อเหตุอะไรไว้ในไทย เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาว่าหากชายคนนี้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว ควรจะอนุญาตให้กลับเข้ามาในไทยได้อีกหรือไม่