ทยอยเคลื่อนย้ายศพกลับ จ.อุทัยธานี

View icon 106
วันที่ 2 ต.ค. 2567 | 20.01 น.
ข่าวภาคค่ำ
แชร์
ข่าวภาคค่ำ - เจ้าหน้าที่นิติเวชอนุญาตให้ญาติทยอยนำร่างของผู้เสียชีวิต จากเหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษา กลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่จังหวัดอุทัยธานี คาดว่าขบวนแรกจะเดินทางไปถึง 20.00 น. คืนนี้

พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เปิดเผยความคืบหน้าการเร่งพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล หลังได้รับตัวอย่าง DNA ครบทั้ง 23 ครอบครัว ว่าได้ทยอยให้ญาติรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา หลังดำเนินการเสร็จสิ้นทุกกระบวนการแล้ว 14 ศพ ส่วนที่เหลืออีก 9 ศพ คาดว่าจะทยอยออกจากสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ ได้ทั้งหมดในคืนนี้

ขณะที่ ญาติแต่ละขบวนหลังดำเนินการรับศพเสร็จสิ้นแล้ว จะแวะบริเวณจุดเกิดเหตุบนถนนวิภาวดี-รังสิต เพื่อประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก่อนเดินทางต่อ คาดว่าขบวนแรกที่นำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา 5 ศพ จะไปถึงจังหวัดอุทัยธานี เวลาประมาณ 20.00 น. 

ขณะที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ได้ไปร่วมให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต บอกว่า จะติดตามดูการเยียวยาจากผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และมองว่าเรื่องนี้ทุกฝ่ายควรถอดบทเรียน ร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

สำหรับเรื่องการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต สรุปแล้ว รัฐบาลมอบเงินเยียวยาผู้บาดเจ็บ ทุพพลภาพ และเสียชีวิตคนละ 1 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท โดยสั่งจ่ายเงินภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะเป็นหน่วยงานอื่น ๆ เช่น บริษัทประกันภัย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่จะมอบเงินให้กับผู้เสียชีวิต รวมถึงการดูแลเด็กที่ได้รับบาดเจ็บต่อเนื่องจนอายุ 18 ปี โดยภาพรวมแต่ละครอบครัวจะได้รับเงินเยียวยาประมาณ 2.4 ล้านบาทต่อคน

ส่วนความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของนักเรียน 3 คน ที่ถูกเพลิงไหม้ และยังต้องอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด โดยเคสนักเรียนหญิงอายุ 14 ปี อยู่ในห้องแยกความดันลบ หอผู้ป่วยวิกฤตกุมารศัลยกรรม สถาบันสุขภาพแห่งชาติมหาราชินี มีบาดแผลไฟไหม้ 11% บริเวณแก้มขวา แขนทั้ง 2 ข้าง รักแร้ข้างซ้าย และหลัง รู้สึกตัวดี สัญญาณชีพปกติ

ส่วนที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เคสนักเรียนหญิง 7 ขวบ มีบาดแผลไฟไหม้ 20% ที่ใบหน้า มือ และแขนทั้ง 2 ข้าง และนักเรียนหญิง 9 ขวบ มีแผลไฟไหม้ 30% ที่ใบหน้า และแขน ทั้ง 2 เคส สัญญาณชีพปกติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง