ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ยืนยันสาเหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาเกิดจากถังก๊าซรั่ว ไม่ใช่ยางแตก แต่ยังไม่ชัดตัวจุดประกายไฟ รอผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ
ผบช.สพฐ.ยันปมถังก๊าซรั่ว ต้นเหตุเพลิงไหม้รถบัส
พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมอบหมายให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบรถบัสที่เกิดไฟไหม้เพิ่มเติมทั้งระบบถังก๊าซ ระบบเบรก และการเดินรถ เพื่อความรอบคอบและรายละเอียดของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ แต่เบื้องต้นยืนยันว่า เกิดการรั่วไหลของถังก๊าซบริเวณส่วนหน้าของรถ
ส่วนอะไรเป็นตัวที่ทำให้เกิดประกายไฟจนลุกลาม รวมถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการรั่วไหล ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ แต่มีข้อสันนิษฐานอยู่ 2 ประเด็น ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ควบของรถ หรือ ความเสื่อมสภาพของท่อต่อก๊าซต่าง ๆ ยังต้องรอการตรวจสอบในเชิงลึก โดยยึดหลักนิติวิทยาศาสตร์ว่า อะไรเป็นชนวนให้เกิดประกายไฟลุกลามขึ้นมา เพื่อสรุปให้กับพนักงานสอบสวนตามขั้นตอน ส่วนที่มีการติดตั้งถังก๊าซเกิดจำนวนกว่าที่ได้รับอนุญาต ถือว่าเป็นหลักฐานชัดเจนที่มีการกระทำความผิด
เผยถังก๊าซที่ 8 ที่แอบเพิ่มเองรั่ว ต้นตอเพลิงไหม้
ส่วนที่รัฐสภา วันนี้ มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร มีวาระสำคัญในการหารือ กรณีรถบัสนักเรียนจังหวัดอุทัยธานีไฟไหม้ โดยเชิญ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และคณะมาชี้แจงถึงสาเหตุเพลิงไหม้ รวมถึงแนวทางการแก้ปัญหาในอนาคต
ซึ่ง นายชีพ น้อมเศียร ผู้อำนวยการสำนักวิศวกรรมยานยนต์ บอกว่า จากการตรวจสภาพรถพบว่า ประตูด้านหลังฝั่งขวา คันโยกที่ใช้เปิดปิดภายในตัวรถยังใช้งานได้ปกติ นอกจากนี้ ยังพบว่าล้อรถไม่ได้ระเบิด และเรื่องการติดตั้งถังก๊าซ 11 ถัง ซึ่งเกินกว่าที่จดทะเบียนไว้ 5 ถัง และมีท่อก๊าซหลุดเป็นเหตุให้เกิดก๊าซรั่ว ซึ่งถังที่รั่วไหลเป็นถังหมายเลข 8 ซึ่งไม่ได้อยู่ในรายการตรวจสอบของวิศวกร เพราะถังที่ได้รับการตรวจสอบ มีเพียงถังที่ 1-6 รวมถึงพบว่า เพลาล้อหน้าหักครูดกับถนน ซึ่งอยู่ระหว่างกรมการขนส่งทางบกกับกองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันวิเคราะห์สรุปหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะแถลงให้ทราบต่อไป
เอาผิดเจ้าของ-คนขับ ปมถังก๊าซเกินจำนวน
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก บอกว่า คนที่ต้องรับผิดชอบเรื่องถังก๊าซเกินจำนวน ประกอบด้วย 1.ผู้ประกอบการ หรือ เจ้าของรถ เบื้องต้นได้พักใช้ใบอนุญาตจนกว่าผลสอบสวนจะออก 2.คนขับรถ ให้พักใบอนุญาตจนกว่าจะสอบสวนเสร็จ ถ้ามีความผิดก็เพิกถอนใบอนุญาต 3.วิศวกรผู้ตรวจสอบถังก๊าซ พักใบอนุญาต ระงับการดำเนินการทั้งหมด 4.บุคลากรที่จัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (TSM) ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และดึงตัวเข้ามาทำงานที่กรมการขนส่งทางบก ทั้งหมดอยู่ระหว่างการสอบสวน หากพบว่ามีความผิด ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ส่วนของเอกชนก็จะต้องโดนทั้งแพ่งและอาญา ส่วนโทษทางปกครอง คือ ต้องถอนใบอนุญาตประกอบการ ถอนใบอนุญาตขับรถ ถอนใบรับรองการติดตั้งก๊าซ ถอนการเป็นผู้จัดการด้านความปลอดภัย
กรรมาธิการ ได้รุมซักถามว่า การตรวจสภาพรถเป็นการตรวจทิพย์หรือไม่ เป็นไปได้อย่างไรที่ผู้ตรวจสอบสภาพรถจะไม่เห็นจำนวนถังที่เกินมา โดย นายจิรุตม์ บอกว่า เรื่องการตรวจสอบจำนวนถังก๊าซ ตนสามารถยืนยันโดยระบบได้ แต่ยืนยันในตัวบุคคลไม่ได้ เพราะเพิ่งสั่งย้ายไป 2 คน และยืนยันว่า หากมีความผิดจริงก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และนอกจากรถคันที่เกิดเหตุแล้ว ก็มีอีก 1 คัน ที่มีการติดตั้งถังก๊าซแบบเดียวกันนี้