ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนครพนม ยอมรับตัดไฟบ้านยายป่วยติดเตียงจริง แต่ต้องรอตรวจสอบว่า เป็นเหตุทำให้เสียชีวิตหรือไม่
ดรามา! ตัดกระแสไฟฟ้า คุณยายป่วยติดเตียงตาย
เป็นประเด็นดรามา เมื่อญาติ ๆ ของ นางเกียน อายุ 68 ปี ประชาชนกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง ร้องเรียนสื่อมวลชนว่า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา พนักงานเอกชน รับหน้าที่จากสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาอำเภอวังยาง จังหวัดนครพนม เข้ามาดำเนินการยกหม้อตัดไฟฟ้าจากบ้านยายเกียน เพราะค้างชำระค่าไฟฟ้ามานาน 2 เดือน เป็นเงิน 1,500 บาท
ญาติยืนยันจะไปชำระค่าไฟฟ้าที่ค้าง พร้อมอ้อนวอนไม่ให้ตัดกระแสไฟ โดยให้เหตุผลว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยเสียค่าไฟ เพราะใช้ไม่เกินหน่วย ตามที่รัฐบาลช่วยเหลือ แต่ช่วงหลัง ยายเกียน อาการทรุดหนัก ต้องมีอุปกรณ์การแพทย์ อาทิ เครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องช่วยหายใจ รวมถึงเครื่องดูดเสมหะ และเตียงลม ทำให้ต้องใช้ไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง
จากนั้นมีการยกหม้อตัดกระแสไฟฟ้า ซึ่งทางญาติ อ้างว่า พอกระแสไฟฟ้าถูกตัด ทำให้อุปกรณ์การแพทย์ทั้งหมดหยุดทำงาน และที่หนักสุด คือ เครื่องผลิตออกซิเจนดับ จน ยายเกียน อาการทรุด และเสียชีวิตในที่สุด
เมื่อประเด็นนี้ถูกเผยแพร่ หลายคนพากันตั้งคำถามว่า การตัดกระแสไฟฟ้าแบบนี้ แม้ทำตามกฎกติกา แต่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วหรือไม่?
กฟภ.ยอมรับตัดไฟบ้านยายป่วยติดเตียง
ล่าสุดวันนี้ นายทวี สราญรมย์ ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง นำพวงหรีดร่วมไว้อาลัยยายเกียน พร้อมเปิดเผยว่า มีพนักงานบริษัทเอกชน มาตัดไฟฟ้าจริง ช่วงเช้าวันที่ 1 ตุลาคม ทำให้ไฟดับประมาณ 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ก่อนตัดไฟ หลานสาวผู้เสียชีวิตให้เหตุผลกับพนักงานตัดไฟว่า ขอเวลาเดินทางไปชำระค่าไฟที่ค้างไว้ 2 เดือน รวม 1,155 บาท ที่สำนักงานการไฟฟ้า สาขาอำเภอวังยาง อยู่ห่างไป 10 กิโลเมตร แต่เจ้าหน้าที่ยังทำตามหน้าที่ตัดไฟทั้งบ้าน ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวไปได้ไทม์ไลน์การยกมิเตอร์ตัดไฟบ้านของคุณยายผู้เสียชีวิต วันที่ 1 ตุลาคม เวลา 09.20 น. มีการตัดไฟยกหม้อมิเตอร์ไฟฟ้าไปจากเสาหน้าบ้าน เวลา 10.49 น. มีการชำระเงินค้างจ่ายเข้าระบบ เวลา 11.49 น. เจ้าหน้าที่มาติดตั้งคืนไฟฟ้า รวมไฟฟ้าดับ 2 ชั่วโมง 29 นาที และมีการตรวจสอบพบว่า ไม่มีการแจ้งในระบบว่า บ้านนี้มีผู้ป่วยติดเตียง
ส่วนสาเหตุการค้างชำระค่าไฟ ตรวจสอบพบว่า จากข้อมูลย้อนหลัง บ้านหลังนี้ได้รับการยกเว้นมานานกว่า 7 เดือน เนื่องจากอยู่ในเกณฑ์ใช้ไฟรัฐบาลช่วยเหลือ คือ ไม่เกิน 315 บาท จนกระทั่งเริ่มมียอดต้องชำระ ในช่วงที่ใช้อุปกรณ์การแพทย์ ทำให้หน่วยค่าไฟเกินที่รัฐบาลกำหนด
นอกจากนี้ นายทวี ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองนครพนม ยืนยันว่า ไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ และจะได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จริง พร้อมหาทางเยียวยาตามระเบียบ แต่ยอมรับว่าไม่เข้าข่ายระเบียบหลักเกณฑ์ที่ต้องชดเชยเยียวยา เนื่องจากไม่ได้เสียชีวิตทันทu ส่วนทางบริษัทเอกชน ที่รับจ้างตัดไฟ ได้มอบเงินให้กำลังใจครอบครัวเบื้องต้น 10,000 บาท และร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญสวดอภิธรรมศพตามประเพณี
เรื่องการตัดไฟ ยืนยันไม่ได้ถึงขั้นเอาเป็นเอาตาย สามารถผ่อนผันได้ตามความเหมาะสม ยิ่งเป็นบ้านผู้ป่วย ผู้พิการ ก็จะมีการผ่อนผัน หากมีผู้นำท้องถิ่นแจ้งข้อมูลลงในระบบก็จะไม่มีการตัดไฟฟ้า แต่อาจจะเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อนระหว่างพนักงานเอกชน น้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และวางแนวทางป้องกันแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
หลานสาวคาใจตัดไฟจนยายตาย
ด้าน นางสาวสุธารินี อายุ 42 ปี หลานสาวผู้เสียชีวิต พอใจในระดับหนึ่ง หลังจากการไฟฟ้าออกมาให้ความชัดเจน แต่ยังคาใจ และยังเชื่อว่า การตัดไฟเป็นสาเหตุทำให้ยายอาการทรุด ก่อนเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวไม่อยากเรียกร้องอะไร เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายสู้คดี หรือเรียกร้องการชดเชยเยียวยา อยู่ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะเมตตาเห็นใจช่วยเหลือครอบครัวที่สูญเสียตามความเหมาะสม และที่สำคัญ อยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง ไม่อยากให้เกิดกับใครซ้ำอีก ขอเป็นรายสุดท้าย
อ้างไม่มีข้อมูลบ้านถูกตัดไฟ มีผู้ป่วยติดเตียง
ทีมข่าวพูดคุยกับ นายธีรวัฒน์ เจ้าหน้าที่ที่ไปตัดไฟฟ้า อ้างว่า ไม่ทราบว่าบ้านเกิดเหตุ มีผู้ป่วยติดเตียงอยู่ในบ้าน ซึ่งในกรณีปกติ จะมีการแจ้งข้อมูลสมาชิกในบ้าน หากพบว่ามีผู้ป่วยติดเตียงอาศัยอยู่ จะไม่มีการตัดไฟฟ้าลักษณะนี้ ส่วนตัวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อนุทิน สั่ง ผู้ว่าฯ กฟภ. ทำรายงานชี้แจง
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว ซึ่งเรื่องของการเสียชีวิตเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนเสียใจ แต่ต้องดูว่าเหตุเกิดขึ้นจากที่ถูกตัดไฟหรือไม่ ต้องแยกแยะเป็นเรื่อง ๆ เพราะหากมีการจ่ายค่าไฟ เจ้าหน้าที่จะไม่สามารถไปตัดไฟได้ ซึ่งมีกฎระเบียบตรงนี้อยู่แล้ว ได้สั่งการให้ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทำรายงานเรื่องนี้โดยละเอียดและส่งมาให้ตนอีกครั้ง