ห้องข่าวภาคเที่ยง - ไปติดตามความคืบหน้า ผู้ป่วยจากอุบัติเหตุรถทัศนศึกษา ภาพรวมอาการยังทรงตัว ส่วนในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ยังขาดเตาเผาศพเคลื่อนที่อีกเป็นจำนวนมาก
สรุปอาการบาดเจ็บของเด็ก จากอุบัติเหตุรถทัศนศึกษา
ความคืบหน้า ผู้ป่วยเด็กหญิง 14 ปี ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โดยรวมอาการดีขึ้น ไม่มีไข้ รับประทานอาหารได้ ทางเดินหายใจอยู่ในเกณฑ์ปกติ บาดแผลไฟไหม้ดีขึ้นมาก ไม่พบการติดเชื้อ สามารถนอนหลับได้ดีขึ้น
ส่วนที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เด็กหญิงอายุ 7 ขวบ สัญญาณชีพปกติ ใส่ท่อช่วยหายใจ มีรอยไฟไหม้บริเวณใบหน้า เส้นผม ในช่องปากมีรอยไหม้มากพอสมควร ใบหน้าบวมช้ำเท่าเดิม รักษาด้วยการให้สารน้ำทดแทนทางหลอดเลือดดำ ได้รับยากระตุ้นความดัน ไตทำงานผิดปกติเล็กน้อย ทำให้ปัสสาวะออกมามาก และเกลือแร่ผิดปกติ
อีกเคส เด็กหญิงอายุ 9 ขวบ สัญญาณชีพปกติ ใส่ท่อช่วยหายใจ ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า คอ แขน และมือทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่สอง ทั้งหมดประมาณ 30% ให้ยาแก้ปวด และยานอนหลับให้สารน้ำและเกลือแร่ทดแทนทางหลอดเลือดดำ ทีมแพทย์วางแผน ให้อาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูก
ขาดเตาเผาศพ เป็นจำนวนมาก จ.อุทัยธานี
ส่วนบรรยากาศที่ อาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ฝนตกตั้งแต่เช้า หลายคนทุลักทุเลเดินทางมาร่วมงาน ซึ่งช่วงเย็นจะมีพิธีสวดอภิธรรมศพผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ศพ เป็นวันที่ 2 ขณะนี้ยังขาดเตาเผาศพเคลื่อนที่อีก จำนวนมาก ตอนนี้มีอยู่เพียง 5 เตา หากใครพอประสานความช่วยเหลือตรงนี้ได้ ชาวบ้านก็ยินดี และเริ่มมีการปรับพื้นที่สนามกีฬาโรงเรียน เพื่อเตรียมพิธีพระราชทานเพลิงศพแล้ว เรียกได้ว่า งานนี้แม้การเดินทางจะไม่สะดวก แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเหล่าจิตอาสา ที่ต่างระดมเดินทางมาช่วยงาน ทั้งจัดเลี้ยงอาหาร โดยมีร้านราดหน้าชื่อดังจาก จังหวัดนครปฐม มาปรุงอาหารเลี้ยงผู้ร่วมงาน บางคนเดินทางมาไกลจากจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมาร่วมไว้อาลัย
ส่วนการเยียวยายังทยอยหลั่งไหล เมื่อวานนี้ ทั้งภาครัฐ โดยกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงศึกษาธิการ มอบเงินช่วยเหลือให้ครอบครัวละ 30,000 บาท ส่วนบริษัทเจ้าของรถบัส มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตครอบครัวละ 50,000 บาท และรับปากจะดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน มีข่าวว่า โชเฟอร์รถบัส อยากมาร่วมงาน แต่ก็ห่วงความไม่ปลอดภัย ซึ่งคุณชาดา ไทยเศษฐ์ บอก "ไม่ต้องห่วงผมอยู่ในพื้นที่ตลอด อยากมามาได้เลย" ส่วนช่วงบ่าย วันนี้คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จะนำเงินเยียวยามอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้ง 23 ศพ รวมก้อนเดียว 27.83 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าทางคดี หลังจากเมื่อวานนี้ มีการเปิดเผยข้อมูล รถบัสคันดังกล่าว ขออนุญาตติดตั้งถังก๊าซ NGV 6 ถัง แต่ติดตั้งจริง 11 ถัง เกินมา 5 ถัง ถังที่ 1-6 ยังไม่หมดอายุ เช่นเดียวกับถังส่วนเกิน คือถังที่ 7 และ 8 ยังไม่หมดอายุ ส่วนถังที่ 9, 10 หมดอายุตั้งแต่ปีที่แล้ว
และถังที่ 11 พบรอยท่อก๊าซหลุด เมื่อวานนี้ ตำรวจและเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ก็สั่งให้ผู้ประกอบการ บริษัทชินบุตรทัวร์ นำรถบัสที่เหลือในบริษัท อีก 5 คัน เข้าตรวจสภาพ ปรากฎมีการสับขาหลอก ไม่ไปตามนัด
แต่รถไปโผล่ที่ จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบคนงานกำลังตัด รื้อ ถังก๊าซ ออกจากรถบัส เรื่องนี้ตำรวจรอเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก (เจ้าทุกข์) เข้าแจ้งความดำเนินคดี เท่ากับว่าจะต้องได้รับโทษเพิ่มจากที่ได้รับโทษตอนนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการ ก็มีประมาณ 4 ข้อหา สูงสุดตอนนี้คือ พักใช้ใบอนุญาตผู้ประกอบการ
ส่วนโชเฟอร์ โทษตอนนี้ ทั้งขับรถโดยประมาทหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตราย แก่บุคคลหรือทรัพย์สิน, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และข้อหาที่ 4 ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล และไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ ไม่แสดงตัว และไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานเป็นเหตุให้บุคคลถึงแก่ความตาย
รมว.กระทรวงดิจิทัลฯ ตรวจสอบเพจฯ ปลอมรับบริจาค
จากกรณีเฟซบุ๊กโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม โพสต์ข้อความเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือนักเรียนและครูที่ประสบเหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ บอกว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 2 จะเป็นผู้รับผิดชอบ การรับบริจาคและจะเป็นบัญชีเดียวทั้งหมด
ขณะนี้ นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้สั่งการให้ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตรวจสอบเพจที่หลอกลวงประชาชนเพื่อรับบริจาค และเฝ้าระวังอยู่ตลอด จึงขอแจ้งไปยังประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อ เพราะอาจเป็นมิจฉาชีพ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีเพจใดบ้าง