ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ล่าข้ามคืน ตำรวจล้อมจับอดีตนักมวย หนีหมายจับคดีลักทรัพย์นายจ้าง เข้าไปในบ้านคุณหมอ ยิงปืนขู่นับสิบนัด ก่อนหลบหนี อลหม่านคูณสอง เมื่อเมียคนร้ายเครียดที่ผัวถูกไล่จับ ใช้ปืนจ่อหัวตัวเอง ขึ้นรถเก๋งสายตรวจ บังคับให้ไปส่งก่อนวิ่งหนีเข้าป่าไปได้อีกคน
อดีตนักมวยคลั่งยิงสู้ - หลบหนีจับกุม
จากกรณี นายสันติ เจ๊ะอะหลี อายุ 39 ปี อดีตนักมวยไทย ชื่อ "ฤทธิเดช ใหม่เมืองคอน" และเคยเป็นอดีตเทรนเนอร์มวยไทย สังกัด "เฮียตี๋ ทีเด็ด99" ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ขัดขืนการจับกุม และพยายามต่อสู้ยิงปืนใส่ตำรวจ เพื่อเปิดทางหนี
ย้อนไทม์ไลน์ล่าอดีตนักมวย
เหตุการณ์ระทึกเกิดขึ้นเมื่อช่วง 19.00 น. คืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.เตาปูน ไล่ติดตามคนร้าย ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ เข้ามาภายในซอยอินทามระ 29 แยก 1 ก่อนเกิดการยิงปะทะกัน เสียงปืนดังประมาณ 4-5 นัด ก่อนคนร้ายจะปีนกำแพงหลบหนี
ต่อมาช่วง 20.00 น. คนร้ายหลบหนีเข้าไปยังบ้านประชาชน ในซอยอินทามระ 29 แยก 5 มีคนพักอาศัย 4 คน พ่อแม่ และลูกชาย 2 คน พ่อแม่หลบหนีออกมาได้ ส่วนลูกชาย 2 คน เป็นคุณหมอ นอนอยู่ภายในบ้าน โดยในวงจรปิดจะเห็นคนร้ายเปิดประตูห้องนอนของคุณหมอ แล้วทำท่าจุ๊ปากให้เงียบ พร้อมทำท่ากวักมือให้ออกมา ก่อนคนร้ายจะเดินไปล้างหน้าที่อ่างล้างมือ
จนช่วงประมาณ 21.50 น. ตำรวจ สน.บางซื่อ พร้อมกำลังชุดหนุมานกองปราบ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประเมินสถานการณ์ เตรียมเข้าช่วยเหลือตัวประกันที่ติดอยู่ในบ้าน 2 คน
ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือคุณหมอ 2 คน ออกมาจากในบ้านได้อย่างปลอดภัย โดยคุณหมอบอกว่า ได้ยินเสียงเหมือนคนร้ายกระโดดลงจากระเบียงชั้น 2 ไปก่อนหน้านี้แล้ว
เวลาประมาณ 23.50 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ สั่งการให้คลี่คลายสถานการณ์ด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัย
เมียคนร้ายจี้ ตร. สุดท้ายยอมมอบตัว
เหตุการณ์ยังไม่คลี่คลาย ตำรวจยังตามจับตัว นายสันติ ไม่ได้ ปรากฎว่าช่วง 01.00 น. ก็เกิดเหตุภรรยานายสันติ ใช้ปืนจ่อศีรษะตัวเอง ภายในบ้านร้าง 2 ชั้น ริมถนนวิภาวดีรังสิตขาออกใกล้แยกสุทธิสาร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร คาดว่าเกิดจากภาวะเครียดที่สามีถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุม จากนั้น เจ้าหน้าที่พา เฮียตี๋ เจ้าของค่ายมวย ที่ นายสันติ เคยสังกัดอยู่ มาช่วยพูดเกลี้ยกล่อม แต่ไม่เป็นผล ภรรยานายสันติ บอกกับตำรวจว่า "จะออกไปจากที่นี่ ให้ตำรวจขับรถพาออกไป" เจ้าหน้าที่จึงเตรียมรถให้
จนช่วง 01.45 น. ภรรยานายสันติ ยอมออกมาจากบ้านร้าง โดยใช้ปืนจี้ตัวเอง และใช้เสื้อคลุมสีดำคลุมศีรษะ เดินไปเปิดประตูหลังด้านซ้ายของรถเก๋งสายตรวจตำรวจ 191 มีตำรวจพลขับเพียงคนเดียว ก่อนใช้ปืนจี้บังคับให้ตำรวจขับรถมุ่งหน้าวิภาวดีฯ ขาออก ไปจอดริมถนนธัญบุรี อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วถือปืนลงจากรถ วิ่งหลบหนีเข้าป่าหายตัวไป
เวลาผ่านไปถึงช่วง 05.40 น. ภรรยาของนายสันติ ตัดสินใจปรากฏตัวต่อหน้าตำรวจ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้พยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้วางปืน ซึ่ง ภรรยานายสันติ ยังไม่มีท่าทีที่จะวางปืน จึงประสานให้ เฮียตี๋ มาพูดเกลี้ยกล่อมอีกรอบ
จนกระทั่งช่วง 05.50 น. ภรรยานายสันติ ยอมวางปืนและเข้ามอบตัวกับตำรวจ โดย ภรรยานายสันติ ยังมีอาการร้องไห้ฟูมฟาย บ่นว่า "เจ็บ ๆ" หลังมีบาดแผลที่ส้นเท้าซ้ายจากการถูกเศษแก้วบาดตั้งแต่ตึกร้างแยกสุทธิสาร โดยมีการประสานรถพยาบาลจากโรงพยาบาลตำรวจมารับตัว เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
พยานเห็น "สันติ" วิ่งข้าม ถ.วิภาวดีรังสิต หนี
ทีมข่าวเย็นประเด็นร้อน ไปตรวจสอบด้านหลังซอยอินทามระ แยก 3 ซึ่งติดคลองบางซื่อ พบชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนช่วงประมาณ 22.45 น. ลูกชายไปธุระข้างนอก เธอจึงให้ลูกชายนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้าง กลับมาทางด้านท้ายซอย เพราะว่าในซอยกำลังปิดล้อมจับตัว นายสันติ อยู่ เกรงว่าลูกจะไม่ปลอดภัย ซึ่งพอลูกมาถึงบ้าน ได้บอกว่า เมื่อสักครู่ ซึ่งหมายถึงเวลาประมาณ 22.45 น. ระหว่างซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์อยู่ริมถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาออก กำลังจะเลี้ยวลงทางเดินริมคลองบางซื่อ เห็นผู้ชายลักษณะเหมือนสวมเสื้อเกราะ มือ 2 ข้างล้วงกระเป๋าเหมือนจับอาวุธปืน เดินขึ้นมาจากสะพานริมคลอง และวิ่งข้ามถนนวิภาวดีรังสิตไปอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อลูกมาเล่าให้ฟัง เธอจึงบอกว่านั่นคือผู้ต้องหาที่ตำรวจกำลังล้อมจับ และหนีออกไปตั้งแต่ก่อน 23.00 น. แล้ว
คนในซอยเห็น 2 ผัวเมีย กลับมา 3 วันแล้ว
เมื่อไปสอบถามคนในซอยอินทามระ แยก 3 ส่วนใหญ่รู้จัก 2 ผัวเมียคู่นี้ คือ นายสันติ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า เอส และเมียชื่อ ก้อย โดยทั้งคู่อยู่ในอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยนี้ เป็นเวลา 10 กว่าปี ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่บ้านของก้อย ที่จังหวัดอำนาจเจริญ น่าจะประมาณสัก 3-4 ปี จนเมื่อช่วงวันพุธที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา เห็นผัวเมียคู่นี้กลับมาในซอย แวะเวียนคนรู้จัก และซื้อของตามร้านค้าที่คุ้นเคย
ตร.แจ้งข้อหาเมีย - เร่งล่าตัว "สันติ"
ล่าสุดช่วง 10.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ ยืนยันว่าตอนนี้ ตำรวจยังจับตัว นายสันติ ไม่ได้ แต่เชื่อว่ายังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ชุดสืบสวนนครบาลและชุดสืบพื้นที่กำลังไล่กล้องตามตัวอยู่ ส่วนที่จับได้นั้นเป็นภรรยาของนายสันติ ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพราะว่าต้องทำแผลที่ได้รับบาดเจ็บ และจะนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สน.บางซื่อ
จากการค้นตัวภรรยาของนายสันติ พบอาวุธปืน 1 กระบอก และไอซ์ ประมาณ 1 กรัม ส่วนมือถือไม่เจอ จริง ๆ นายสันติ เป็นนักมวยระดับแชมป์ แต่มาเสียคนเพราะติดยาเสพติด ส่วนภรรยาก็ติดยาเหมือนกัน ตอนนี้ตัวภรรยายังไม่พูดอะไร เพราะว่าเจ้าตัวกดดันและมีอาการเครียด
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหากับ ภรรยานายสันติ 3 ข้อหา คือ พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, กักขังหน่วงเหนี่ยวตำรวจ และข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด
ต่อมาช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ตำรวจได้คุมตัวภรรยาของนายสันติจากโรงพยาบาล ขึ้นรถผู้ต้องขังไปดำเนินคดีที่ สน.บางซื่อ โดยในระหว่างการควบคุมตัว เจ้าตัวนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ในสภาพอิดโรยและอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด มีการพันแผลที่เท้าซ้ายจากการถูกเศษแก้วบาด เจ้าหน้าที่ต้องค่อย ๆ ประคองขึ้นรถอย่างทุลักทุเล
เมื่อมาถึง สน.บางซื่อ ตำรวจได้อุ้มประคองและนำเสื้อคลุมปิดบังใบหน้า พร้อมให้นั่งรถเข็น ก่อนจะเข็นเข้าไปยังห้องประชุมชั้น 2 เพื่อนำตัวไปสอบสวน โดยระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามภรรยาผู้ก่อเหตุ ว่าก่อเหตุเพราะอะไร เป็นการกระทำเพื่อเบี่ยงเบนให้สามีหลบหนีหรือไม่ มีการเสพยาด้วยหรือไม่ แต่เจ้าตัวไม่ตอบคำถาม และไม่ได้แสดงท่าทีอะไร
เบื้องต้น พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ เพื่อเข้าร่วมสอบสวนและประชุมติดตามความคืบหน้าคดี
รอง ผบช.น. ประกาศปฏิบัติการไล่ล่าขั้นสูงสุด
ล่าสุดช่วง 15.00 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. แถลงความคืบหน้าคดีว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถจับตัวนายสันติได้ พร้อมประกาศ ใครให้ที่พัก หรือพาหลบหนี มีความผิดตามกฎหมาย โดยท่าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ปฏบัติการไล่ล่าผู้ต้องหารายนี้ขั้นสูงสุด คาดว่าจะได้ตัวเร็ว ๆ นี้