ตำรวจสายตรวจตีสนิทสาววัย 17 ปี ลวงไปข่มขืนคาป้อมตำรวจ ขู่ฆ่าห้ามบอกใคร

ตำรวจสายตรวจตีสนิทสาววัย 17 ปี ลวงไปข่มขืนคาป้อมตำรวจ ขู่ฆ่าห้ามบอกใคร

View icon 109
วันที่ 5 ต.ค. 2567 | 16.44 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (5 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ่ออายุ 73 ปี พาลูกสาวอายุ 17 ปี เดินทางขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังลูกสาวถูกตำรวจสายตรวจ เป็นรองสารวัตร สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ตีสนิทจนนับถือเป็นลุง สุดท้ายออกลายขับรถสายตรวจมารับลวงไปข่มขืนคาป้อมตำรวจ

ผู้เสียหาย บอกว่า ช่วง ก.พ. 67 ญาติพาพ่อซึ่งป่วยติดเตียงกลับบ้านที่ภาคใต้ ทำให้ตนต้องอยู่ลำพัง และได้เดินทางแจ้งความที่ สภ.บ้านบึง เนื่องจากมีคนมาขับรถวนเวียนแถวบ้าน จากนั้นทาง สภ.บ้านบึง ได้ให้เบอร์ตำรวจสายตรวจ จากนั้นเขาก็ได้มาดูที่บ้าน แต่คนร้ายไม่อยู่แล้ว ต่อมาตำรวจได้ขอไลน์เพื่อติดต่อหากมีอะไรผิดปกติ และได้ติดต่อกันมาตลอด คอยแวะเวียนมาดู เพราะเขาเห็นตนอยู่คนเดียว โดยตนก็ให้ความเคารพเขาเหมือนผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่ง ที่มาดูแลความปลอดภัย พาไปกินข้าว พาไปเที่ยว

กระทั่งช่วงเดือน เม.ย. 67 เวลาประมาณเที่ยงคืน เขาชวนออกมากินข้าวตามปกติ พอกินเสร็จเขาได้บอกว่าขอแวะทำธุระที่ป้อมตำรวจหนองแกก่อน ซึ่งตนเห็นว่าเป็นที่เขาทำงานคงไม่เป็นไร ตอนนั้นในป้อมไม่มีใครอยู่จากนั้นเขาได้เข้ามาลวนลาม ตนก็พยายามห้ามและบอกว่าอย่าทำ นับถือเป็นลุงคนหนึ่ง ไม่ชอบผู้ชาย ตนชอบผู้หญิง แต่เขาไม่ฟัง เข้ามาบังคับข่มขืนจนสำเร็จ แล้วเขามาขอร้องไม่ให้เอาเรื่อง ข่มขู่ถ้าเอาเรื่องไปพูดกับคนอื่นจะฆ่าให้ตาย เพราะในอดีตเขาเคยเผานั่งยางผู้ต้องหาในคดียาเสพติด แต่เอาผิดเขาไม่ได้ เพราะไม่มีใครรู้ ถึงจะไปแจ้งความก็ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ ตนกลัวเลยยอมทำตามที่เขาพูดไม่กล้าบอกใคร

หลังวันนั้นมาเขาก็ทำตัวปกติ แวะมาตรวจแถวบ้าน มารับไปกินข้าว และพยายามมาเลี้ยงดู โดยการมาช่วยจ่ายค่าห้องเดือนละ 2-3 พันบาท เชื่อว่าเขาส่งคนมาเฝ้า เพราะรู้ความเคลื่อนไหวตนตลอดเวลา จากนั้นเขาได้ย้ายไปประจำที่ป้อมหนองไผ่แก้ว และจะโทรมาทุกครั้งที่เขาเข้าเวร ก่อนจะมารับแล้วบอกว่าจะพาไปป้อม ซึ่งตนก็รู้ว่าไปแล้วจะโดนอะไร แต่ก็ไม่กล้าขัดขืนเพราะกลัว

ผู้เสียหาย บอกอีกว่า ที่ผ่านมาเวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน เวลามีคนถามว่าเราเป็นใคร เขาก็จะบอกว่าเป็นหลาน กระทั่งตนทนพฤติกรรมไม่ไหว จึงแอบไปรับพ่อกลับมาอยู่ด้วย ซึ่งเขาก็ได้มาพูดคุยกับพ่อว่าจะรับดูแล ซึ่งทางพ่อปฏิเสธไป ตนก็ไม่อยากให้มาดูแล ประกอบกับตนไม่ได้ชอบผู้ชาย จากนั้นเขาก็เริ่มห่างออกไป ต่อมาไม่นานลูกชายเขาก็พยายามทักมาขู่ให้เลิกยุ่งกับพ่อเขา ซึ่งตนก็ไม่อยากจะยุ่งอยู่แล้ว และที่ออกมาวันนี้เพราะทนไม่ไหว ไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้ หากไปแจ้งความก็กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเขาเป็นตำรวจ ส่วนลูกชายก็มีพรรคพวกเยอะ

ด้าน นายเอกภพ ระบุว่า หลังจากนี้จะปนะสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี (ผบก.ภ.จว.ชลบุรี) เพื่อลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความ รวมถึงตรวจสอบหาหลักฐานทั้งหมด เชื่อว่าสิ่งที่น้องพูดทั้งหมดน่าจะเป็นความจริง เพราะมีไทม์ไลน์ชัดเจน รวมถึงพาน้องไปตรวจร่างกายตามกระบวนการ เรื่องนี้หากผิดก็ว่าไปตามผิด เพราะน้องอายุเพียง 17 ปี มีการใช้รถตำรวจมารับ มีการพาไปละเมิดในป้อมตำรวจ ฝากท่านผู้การฯ ผู้กำกับฯ ลงมาตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนเรื่องที่บอกว่าเคยก่อเหตุพาผู้ต้องหาในคดียาเสพติดไปเผานั่งยาง เรื่องนี้ก็ต้องทำการสืบสวนสอบสวนย้อนหลังด้วย หากเป็นจริงก็ต้องดำเนินการในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน