น้ำท่วมเริ่มกระทบอาชีพ ชาวบ้านขาดรายได้ จ.พระนครศรีอยุธยา

สนามข่าว 7 สี - แม้เมื่อวาน (6 ต.ค.) เขื่อนเจ้าพระยา คงการระบายน้ำไว้ที่ 2,199 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำเป็นวงกว้าง ชาวบ้านบางส่วนต้องมาใช้ชีวิตบนถนน และหลายอาชีพต้องหยุดชะงัก จนขาดรายได้เลี้ยงชีพ

น้ำท่วมเริ่มกระทบอาชีพ ชาวบ้านขาดรายได้ จ.พระนครศรีอยุธยา
บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา-แม่น้ำน้อย ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้าน ได้รับผลกระทบจำนวน 7 อำเภอ การเข้าออกจากบ้านยากลำบาก ต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะ บางส่วนต้องมาใช้ชีวิตรวมกันบนถนน เช่น หมู่ที่ 3 ตำบลบางหลวง อำเภอบางบาล มีรถจักรยานยนต์หลายคันหนีน้ำท่วมภายในบ้าน มาจอดไว้ที่ศาลาอเนกประสงค์ของหมู่บ้าน และยังพบชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ทั้งชายและหญิง มารับจ้างทำผัก หารายได้เลี้ยงชีพ

นางสาวรัชนี อายุ 60 ปี ชาวบ้านรับจ้างทำผัก บอกว่า ทำมาหากินอะไรไม่ได้เลย ตั้งแต่ถูกน้ำท่วมรอบ 2 มาเกือบเดือน เลยมารับจ้างทำผัก ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีรายได้

ขณะที่ นางอรวรรณ อายุ 45 ปี เจ้าของผัก บอกว่า ขายผักสดที่ตลาดเจ้าพรหม ในตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา โดยปกติจะปลูกผัก หรือซื้อผักชาวบ้านในพื้นที่มาขาย แต่ตอนนี้น้ำท่วมหมด ต้องขวนขวายไปหาซื้อผักที่ตลาดอ่างทอง มาทำส่งเขาอีกที เพราะถ้าหยุดไปก็ไม่มีรายได้

กู้ภัยช่วยย้ายผู้ป่วยติดเตียงหนีน้ำท่วม จ.ชัยนาท 
ด้านพื้นที่หมู่ 5 ตำบลโพนางดำออก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท พบแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ติดริมแม่น้ำ

ชาวบ้านในพื้นที่เผยว่า รู้สึกกลัวเพราะทั้งบ้านมีกันอยู่ 3 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด หนึ่งในนั้นเป็นผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียงอายุ 90 ปี ซึ่งน้ำเริ่มเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ชั้น 1 จึงแจ้งอาสากู้ภัย ช่วยย้ายผู้ป่วยติดเตียงขึ้นบ้านชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย แต่ก็ยังไม่วางใจ หากน้ำท่วมเยอะกว่านี้ จะหนีออกทันหรือไม่

น้ำเจ้าพระยา เอ่อล้นคันดิน ท่วมบ้าน 100 หลัง จ.ชัยนาท 
ที่หมู่ 4 ตำบลธรรมามูล อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท แม่น้ำเจ้าพระยาที่เอ่อสูงขึ้น ทำให้คันดินที่ใช้เป็นคันกันน้ำเกิดทะลุ มวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ บ้านเรือนกว่า 100 หลัง ถูกน้ำท่วมภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง  

ชาวบ้านบางรายไม่ทันได้เก็บของ เพราะไม่คาดคิดว่าน้ำจะเอ่อล้นเข้ามา ต้องอพยพครอบครัวมาอาศัยอยู่บนถนน ทางเทศบาลฯ ได้นำเต็นท์มากาง และเดินกระแสไฟฟ้า อำนวยความสะดวก นอกจากนี้ได้นำรถแบ็กโฮไปเสริมสร้างคันดินตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ ในตำบล เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมนั้นขยายวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (7 ต.ค.) เขื่อนเจ้าพระยามีแผนจะเพิ่มการระบายขึ้นไปที่เกณฑ์ไม่เกิน 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขอให้ประชาชนพื้นที่ลุ่มริมน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา รวม 11 จังหวัด ยกของขึ้นที่สูง และเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

น้ำท่วมถนนหน้า รพ.สุโขทัย วางบิกแบ็กสกัด จ.สุโขทัย 
ที่จังหวัดสุโขทัย เมื่อคืนนี้ น้ำในเขตตำบลบ้านกล้วย อำเภอเมือง ที่เอ่อล้นเข้ามาตามคลองแม่ลำพัน ได้ไหลท่วมขังถนนหน้าโรงพยาบาลสุโขทัย ระยะทางยาวกว่า 50 เมตร สูงประมาณ 40 เซนติเมตร ทางโรงพยาบาลนำบิกแบ็กวางปิดประตูทางออก กันไม่ให้น้ำไหลย้อนเข้าไปในโรงพยาบาล คงเหลือทางเข้าไว้ 1 ช่องทาง 

ขอบคุณภาพจาก : Facebook Mon Ppshop