สตม.บุกรวบสาวจีนหนีหมายจับ ทำศัลยกรรมอำพรางใบหน้าซุกไทย

สตม.บุกรวบสาวจีนหนีหมายจับ ทำศัลยกรรมอำพรางใบหน้าซุกไทย

View icon 129
วันที่ 7 ต.ค. 2567 | 13.15 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
พฤติกรรมน่าสงสัย เก็บตัว ปกปิดใบตลอดเวลา สตม.ตามสืบสาวจีนแสบหนีหมายจับคดีฉ้อโกงเพื่อนร่วมชาติเกือบ 8 ล้าน ทำศัลยกรรมอำพรางใบหน้า หนีซุกไทย

หนีหมายจับซุกไทย วันนี้ (7 ต.ค.67) พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้รับเบาะแสจากพลเมืองดี ว่ามีบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน เชื่อว่าจะอยู่ในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และมีพฤติกรรมน่าสงสัย เก็บตัวและมักปกปิดใบหน้าสวมหมวกใส่หน้ากากตลอดเวลาเมื่อต้องออกมาจากที่พักอาศัย จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 นำชุดปฏิบัติการ ลงพื้นที่ตรวจสอบ และวางกำลังสังเกตการณ์อยู่บริเวณด้านล่างของอาคารที่พัก ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งในย่านพระราม 4

กระทั่งพบบุคคลต้องสงสัยมีลักษณะตำหนิรูปพรรณตรงตามข้อมูลของสายลับ ปกปิดใบหน้าอย่างมิดชิดและลงมารับอาหารที่บริเวณชั้นล่าง จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง จึงพบว่าบุคคลต่างด้าวต้องสงสัย เป็นชาวจีน อายุ 30 ปี เดินทางเข้าไทยตั้งแต่ปี 2565 โดยได้รับการตรวจลงตราประเภท TR-15 อนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นเวลา 15 วัน เพื่อท่องเที่ยว ปัจจุบันอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดมาแล้วกว่า 650 วัน จึงคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีและส่งกลับประเทศต่อไป

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้สอบถามถึงสาเหตุการอยู่ในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย แต่ผู้ต้องหาชาวจีนพิรุธ พยายามเปลี่ยนเรื่อง บ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถาม โดยให้การว่าทำงานเป็นพนักงานต้อนรับ สายการบินชื่อดังแห่งหนึ่ง และถูกเลิกจ้างกลางคัน แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะบุคคลต่างด้าวที่ทำหน้าที่ลูกเรือ จะได้รับการตรวจลงตราเป็นการเฉพาะ ไม่ใช่การตรวจลงตราในลักษณะ VISA ON ARRIVAL เพื่อการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบข้อมูลในระบบหมายจับของตำรวจสากลพบว่า ผู้ต้องหาเป็นบุคคลที่มีการหมายน้ำเงินของตำรวจสากล หรือหมายที่แจ้งให้ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐในประเทศสมาชิกตำรวจสากล รวบรวมข้อมูลการเคลื่อนไหว ถิ่นพำนัก บุคลิกลักษณะของบุคคลที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อนำไปสู่การออกหมายแดงหรือประกาศจับต่อไป

ตม. จึงประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงของประเทศจีน จนได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในห้วงประมาณปี 2559- 2562 สำนักงานความมั่นคงสาธารณะมณฑลโจวผิง ประเทศจีน ได้สืบสวนคดีฉ้อโกง ซึ่งมีนางสาว JING QU เป็นผู้ต้องหา โดยได้หลอกเหยื่อว่าสามารถช่วยเหลือวิ่งเต้นให้ได้งานเป็นแอร์โฮสเตส หรือสจ๊วต ของสายการบินชื่อดังหลายแห่ง ทำให้มีผู้เสียหายจำนวน 6 คนหลงเชื่อ ยอมจ่ายเงิน 1.5 ล้านหยวน หรือมากกว่า 7.5 ล้านบาท จากนั้น นางสาว JING QU ได้นำเงินส่วนหนึ่งทำศัลยกรรมใบหน้าใหม่ เพื่อให้ผู้เสียหายจำไม่ได้ และปกปิดใบหน้าตลอดเวลา ก่อนจะหลบหนีมาซ่อนตัวในไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง