ดรามา ! นายกฯ อิ๊งค์ อ่านโพยไอแพดในเวทีโลก

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ดรามาเดือด โซเชียลวิจารณ์หนัก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อ่านสคริปต์จากไอแพดในการประชุมเวทีโลก ขณะที่ นายกฯ ตอบกลับคอมเมนต์ในอินสตาแกรม ยืนยันทำกันทั่วโลก

ดรามา ! นายกฯ อิ๊งค์ อ่านโพยไอแพดในเวทีโลก
กลายเป็นดรามาสุดร้อนแรงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กรณีภาพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก้มอ่านสคริปต์ในไอแพด ขณะเข้าพบหารือกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ณ โรงแรม Fairmont ในระหว่างการประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ และยังมีภาพที่ นางสาวแพทองธาร ก้มอ่านไอแพด ในเวทีการประชุมผู้นำ ACD

จนมีคนในโซเชียลไปแสดงความคิดเห็นในอินสตาแกรมของนางสาวแพทองธาร ระบุว่า "อย่างน้อยศึกษาข้อมูลให้มีในสมองบ้างครับ ก้มหน้าอ่านจากไอแพด มันดูน่าขายขี้หน้าประเทศ ประยุทธ์ ว่าแย่แล้ว คนนี้แย่พอกันหรือแย่กว่าด้วย"

ปรากฏว่า นางสาวแพทองธาร ได้คอมเมนต์ตอบกลับ ระบุว่า "ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ รบกวนดูข่าวหาข้อมูลเยอะ ๆ นะคะ เวลาประชุมแบบนี้ ทั่วโลกเขาอ่านกันค่ะ มันเป็น commitment เป็นสิ่งที่ต้องบันทึกค่ะอ่านทุกคนตั้งแต่ sheikh (ชีค) ถึง minister ลองหาข้อมูลเพิ่มดู ถ้าเป็น bilateral (ทวิภาคี) ส่วนใหญ่จะจดหัวข้อไปแล้วก็พูดคุยกันแบบไม่ต้องอ่านจะเกิดการสร้าง connection ที่ดีค่ะ ดูแค่หัวข้อให้ครบถ้วน ไม่มีใครแย่กว่าใครหรอกค่ะ ทุกคนมีความสามารถกันคนละด้านค่ะ เปิดใจกว้าง ๆ ลองให้โอกาสตัวเอง ลดอคติลงจะมีความสุขขึ้นค่ะ"

ขณะเดียวกันในโซเชียล ได้มีการแชร์คลิปของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่พูดในเวทีโลก โดยตั้งข้อสังเกตว่า แม้ นายพิธา จะก้มอ่านโพย แต่ยังมี eye contact กับคนฟัง แต่ นางสาวแพทองธาร ก้มหน้าอ่านอย่างเดียว ขณะที่บางคนก็โพสต์ภาพของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไปหารือกับผู้นำชาติอื่น ๆ ที่ พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้มีโพยอยู่ในมือแต่อย่างใด

นายกฯ อิ๊งค์ แจงพูดในเวทีโลกต้องเป๊ะ
หลังจากมีกระแสดรามาในโซเชียล วันนี้ นางสาวแพทองธาร ได้ไปกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "Thailand Economic Big Move" ในงานสัมมนา ASEAN Economic Outlook 2025 : The Rise of ASEAN, A Renewing Opportunity ที่โรงแรม สยาม เคมปินสกี้ โดยงานนี้ นักข่าวสังเกตเห็นว่า นายกฯ ก้มอ่านสคริปต์ในไอแพดน้อยลง โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า อายุ 38 ปี ถ้าอยู่ในธุรกิจอื่นจะไม่มีใครบอกว่าอายุน้อย แต่พอมาอยู่ในวงการการเมืองอายุ 38 ปี ถือว่าอายุน้อย แต่ไม่ว่าอายุเท่าไหร่หากเปิดโอกาสในการทำงาน คิดว่าจะมีพลังและไอเดียใหม่ ๆ เข้ามา พร้อมกับคนรุ่นก่อนที่จะมาสนับสนุนเป็นที่ปรึกษาได้ จึงอยากให้ประเทศไทยค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง และตอนนี้เห็นได้ชัดในหลายองค์กรว่ามีคนทุกอายุเพิ่มมากขึ้น

หลังกล่าวเปิดงาน นักข่าวสอบถามนายกฯ ว่า วันนี้ ดูเหมือนนายกฯ จะไม่ใช้ไอแพดมากเกินไป นางสาวแพทองธาร ยอมรับว่า ใช่ แต่มันไม่เหมือนกัน เวลาไปพูดที่ต่างประเทศ เพราะเป็นภาษาอังกฤษ มีคำศัพท์เฉพาะในเรื่องกฎหมาย รวมถึงความเคลื่อนไหวระหว่างประเทศ ตอนกล่าวในงานสัมมนา ตนใช้ไอแพดในการดูหัวข้อ เช่นเดียวกับเวลาไปคุยระหว่างประเทศก็จะใช้แบบนี้เช่นกันเพื่อดูหัวข้อ

นายกฯ แจงทำกันทั่วโลก รับเสียใจกระแสลบ
นางสาวแพทองธาร ยังชี้แจงถึงการตอบคอมเมนต์แล้วนำไปแขวนที่อินสตาแกรม จนมีคนตั้งคำถามถึงภาวะผู้นำว่า ความจริงแล้วการทำงานของตนกับกระแสเป็นเพียงเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานให้สำเร็จเป็นเรื่องใหญ่มากกว่ากระแส แต่บางทีเข้าใจรู้สึกว่า ถูกเข้าใจผิด หรือ ข้อมูลยังไม่ครบ จึงอยากอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้คิดว่าเป็นการแขวนหรืออะไร

เพียงแต่อยากอธิบายว่า บางทีเราด่วนตัดสินคนอื่นเกินไป มันต้องมีข้อมูลด้วยในการจะพูดแบบนี้ ซึ่งไอแพดเป็นเรื่องที่ทุกคนใช้กันทั่วโลก จะใช้ไม่ใช้ก็แล้วแต่บุคคล แต่การประชุมหลัก ๆ ระหว่างประเทศก็ควรจะใช้เป็นกระดาษหรือไอแพดก็ได้ เพราะจะได้ครบประเด็นและถูกต้อง

ถ้าเป็นเรื่องกฎหมายที่อ่อนไหว ตนจะอ่านทั้งประโยคเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด อันนี้ทั่วโลกทำกัน ส่วนกระแสจากการทำงานเป็นผลพลอยได้ เมื่อกระแสดีแน่นอนทุกคนมีกำลังใจ นายกฯ ก็เช่นกันหากกระแสดีมันมีกำลังใจ เพราะเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่ถ้ากระแสลบก็เสียใจเป็นธรรมดา

นายกฯ ไม่กล้ายืนยันสานต่อ "คนละครึ่ง"
ผู้สื่อข่าวถามถึงการนำโครงการ คนละครึ่ง มากระตุ้นเศรษฐกิจในเฟส 2 แต่ นางสาวแพทองธาร ตอบเพียงว่า ไม่กล้าพูดจริง ๆ แล้วเรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมีเยอะมาก แต่ค่อย ๆ ออกมา ต้องดูสถานการณ์บ้านเมืองด้วย ซึ่งมีแนวโน้มว่าหลาย ๆ อย่างที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เราเรียงลำดับทำแน่นอน ดังนั้นขอให้รออีกนิดหนึ่ง อย่าเพิ่งรีบ เมื่อนักข่าวถามถึงความเห็นในเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบัน นางสาวแพทองธาร บอกว่า เป็นเรื่องทางการคลัง ขอให้เขาไปคุยกันต่อ ขอไม่ตอบเรื่องนี้

"ภูมิธรรม" ป้อง "อิ๊งค์" แนะอย่าใช้อคติ
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสวิจารณ์ที่นายกฯ อ่านไอแพดในเวทีประชุมผู้นำ ADC ว่า ควรสนใจสาระมากกว่ารูปแบบ  มันอยู่ที่สาระ ไม่ได้อยู่ที่ใช้ไอแพด หรือไม่ใช้การพูดที่เป็นทางการมาก ๆ ไม่มีใครพูดสด อ่านกันทั้งนั้น บางทีเห็นผู้นำระดับโลกยืนพูดมีพรอมเตอร์ (prompter) ให้เห็นทั้งนั้น จึงขออย่าใช้อคติมาจ้องเล่นเรื่องรูปแบบ มันไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ อยากเชิญชวนมาแก้ไขด้วยสาระ เพื่อแก้ไขปัญหามากกว่าจะมาคอยจับผิด จับถูกว่าสำเนียงเป็นอย่างไร เสียงเป็นอย่างไร แต่งตัวเป็นอย่างไร ในสายตาผมมันไร้สาระ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า นายเนวิน​ ชิดชอบ​ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอล​บุรีรัมย์ยูไนเต็ด​ เข้าพบ นายทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ ที่บ้าน​จันทร์​ส่อง​หล้า โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าหารือกับ นายทักษิณ ด้วย เมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) นายภูมิธรรม ตอบเพียงว่า ตนไม่เห็นได้ยินเลย มาจากไหนก็ไม่

"อนุทิน" โต้ข่าวควง "เนวิน" พบ "ทักษิณ" ชี้ไร้สาระ
ผู้สื่อข่าวนำกระแสข่าวเรื่องที่ นายเนวิน เข้าพบนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าไปสอบถาม นายอนุทิน แต่ นายอนุทิน ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ พร้อมกับย้อนถามว่า "มีข่าวด้วยหรอ" พร้อมพูดว่า "ไร้สาระ" จากนั้นจึงได้เดินทางออกจากทำเนียบฯ ไป

มติ ก.ตร. แต่งตั้ง "บิ๊กต่าย" นั่ง ผบตร. คนที่ 15
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 14.30 น.ที่ผ่านมา (7 ต.ค) นางสาวแพทองธาร ในฐานะประธาน ก.ตร. ได้เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตรวจแถวกองเกียรติยศ ก่อนจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 8/2567 หนึ่งในวาระการประชุมที่สำคัญ คือ การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 15 หลังจากที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีข้าราชการตำรวจ 3 นาย ที่มีชื่อเข้าข่ายได้รับการแต่งตั้ง ได้แก่ พลตำรวจเอก กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับ 1 เกษียณอายุราชการ ปี 2569, พลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจ อาวุโสลำดับ 2 เกษียณอายุราชการ ปี 2568 และ พลตำรวจเอก ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับ 3 เกษียณอายุราชการปี 2569

โดย นายกฯ ในฐานะประธานการประชุม ได้เสนอชื่อ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ จากนั้นที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ หรือ บิ๊กต่าย เป็น ผบ.ตร.คนที่ 15 โดยก่อนหน้านี้ บิ๊กต่าย ได้ทำหน้าที่รักษาการแทน ผบ.ตร. ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจาก พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการ

สำหรับ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ หรือ "บิ๊กต่าย" เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2508 ปัจจุบัน อายุ 58 ปี เหลืออายุราชการอีก 2 ปี โดยจะครบวาระเกษียณในปี 2569 เป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 25 รุ่นเดียว กับ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เริ่มต้นรับราชการตำรวจ ในตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองระยอง ก่อนเติบโตตามลำดับ ขยับขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในปี 2564 และ รองผบ.ตร. ในปี 2565

นายกฯ ตั้ง "อดีตปลัด สปน.-ณัฐวุฒิ" เป็นที่ปรึกษา
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพิ่มเติมเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงแต่งตั้ง

1. นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และเป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2565

2. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพิ่มเติม เพื่อทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษา และพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย